โครงการเสริมสร้างและยกระดับความร่วมมือกับประเทศเพื่อนบ้านในการยุติแหล่งผลิตและทำลายเครือข่ายการค้ายาเสพติดระหว่างประเทศ ปี 2561

ข่าวการเมือง Tuesday May 22, 2018 16:48 —มติคณะรัฐมนตรี

เรื่อง โครงการเสริมสร้างและยกระดับความร่วมมือกับประเทศเพื่อนบ้านในการยุติแหล่งผลิตและทำลายเครือข่ายการค้ายาเสพติดระหว่างประเทศ ปี 2561 (สาธารณรัฐแห่งสหภาพเมียนมา สาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว ราชอาณาจักรกัมพูชาและสาธารณรัฐสังคมนิยมเวียดนาม)

คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติตามที่รองนายกรัฐมนตรี (พลอากาศเอก ประจิน จั่นตอง) และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรมเสนอ ดังนี้

1. อนุมัติโครงการเสริมสร้างและยกระดับความร่วมมือกับประเทศเพื่อนบ้านในการยุติแหล่งผลิตและทำลายเครือข่ายการค้ายาเสพติดระหว่างประเทศ ปี 2561 เพื่อสนับสนุนงบประมาณให้แก่ประเทศ เพื่อนบ้าน จำนวน 20 ล้านบาท

ประเทศ / วงเงิน (บาท)

1. สาธารณรัฐแห่งสหภาพเมียนมา / 5,280,000

2. สาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว / 7,105,280

3. ราชอาณาจักรกัมพูชา / 3,516,800

4. สาธารณรัฐสังคมนิยมเวียดนาม / 4,097,920

รวมทั้งสิ้น 20,000,000

2. อนุมัติให้เลขาธิการคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด (เลขาธิการ ป.ป.ส.) มีอำนาจอนุมัติโครงการ แผนงาน และกิจกรรมภายใต้กรอบงบประมาณงบเงินอุดหนุน รายการโครงการเสริมสร้างและยกระดับความร่วมมือกับประเทศเพื่อนบ้านในการยุติแหล่งผลิตและทำลายเครือข่ายการค้ายาเสพติดระหว่างประเทศ ปี 2561 และสามารถจ่ายเงินงบประมาณสนับสนุนหน่วยงานกลางด้านยาเสพติดของประเทศเพื่อนบ้านแต่ละประเทศเพื่อให้มีการดำเนินการให้บรรลุวัตถุประสงค์ของโครงการฯ ตามที่ได้รับจัดสรร

สาระสำคัญของเรื่อง

ยธ. รายงานว่า

1. ประเทศไทย โดยสำนักงาน ป.ป.ส. ได้ริเริ่มจัดทำโครงการเสริมสร้างและยกระดับความร่วมมือกับประเทศเพื่อนบ้าน ได้แก่ สาธารณรัฐแห่งสหภาพเมียนมา (เมียนมา) สาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว (สปป.ลาว) ราชอาณาจักรกัมพูชา (กัมพูชา) และสาธารณรัฐสังคมนิยมเวียดนาม (เวียดนาม) ในการยุติแหล่งผลิตและทำลายเครือข่ายการค้ายาเสพติดระหว่างประเทศ ในช่วงปี 2557 โดยใช้เป็นกลยุทธ์ในการเสริมสร้างความเข้มแข็งในการสกัดกั้นเคมีภัณฑ์ที่จะเข้าแหล่งผลิต และสกัดกั้นยาเสพติดจากแหล่งผลิตที่จะออกสู่ประเทสไทยและประเทศอื่น ๆ ในภูมิภาค อันจะเป็นประโยชน์ในการลดผลกระทบต่อสถานการณ์ยาเสพติดภายในของประเทศไทยโดยตรง และสำนักงาน ป.ป.ส. ได้รับอนุมัติจากคณะรัฐมนตรีให้ดำเนินโครงการฯ อย่างต่อเนื่องจนถึงปัจจุบัน โดยเบิกจ่ายจากงบประมาณรายจ่ายประจำปีของสำนักงาน ป.ป.ส. งบเงินอุดหนุน เพื่อมอบให้กับประเทศเพื่อนบ้านทั้ง 4 ประเทศดังกล่าว

2. ในภาพรวมโครงการ ฯ นี้ได้รับการยอมรับและความร่วมมือจากประเทศเพื่อนบ้านเป็นอย่างดียิ่ง ประเทศเพื่อนบ้านเห็นพ้องกันว่าโครงการ ฯ สามารถเพิ่มศักยภาพการทำงานของเจ้าหน้าที่และหน่วยปฏิบัติของประเทศตน ทำให้สามารถควบคุมยาเสพติดได้สำเร็จมากขึ้น ดังนั้น เพื่อความต่อเนื่องและความยั่งยืนของโครงการฯ สำนักงาน ป.ป.ส. พิจารณาแล้วเห็นว่า ประเทศไทยควรสนับสนุนงบประมาณให้กับโครงการนี้ต่อไป โดยโครงการฯ ปี 2561 จะเน้นแผนงานความร่วมมือให้สอดคล้องกับนโยบายและยุทธศาสตร์สำคัญของรัฐบาลในการแก้ไขปัญหาพื้นที่สามเหลี่ยมทองคำและสกัดกั้นการลักลอบลำเลียงยาเสพติดและเคมีภัณฑ์ตามลำน้ำโขงมากยิ่งขึ้น สนับสนุนปฏิบัติการเชิงรุกและกิจกรรมของแผนปฏิบัติการแม่น้ำโขงปลอดภัยและแผนปฏิบัติการสามเหลี่ยมทองคำเพื่อสกัดกั้นสารตั้งต้นเคมีภัณฑ์และยาเสพติดมิให้เข้า – ออกจากแหล่งผลิตสามเหลี่ยมทองคำ โดยให้มีการใช้งบประมาณและระดมทรัพยากรไปยังพื้นที่เป้าหมายให้ตรงจุด เพื่อให้เกิดประสิทธิภาพและประสิทธิผลในการแก้ไขปัญหามากยิ่งขึ้น โดยปัจจุบันประเทศไทยได้รับเกียรติเป็นเจ้าภาพแผนปฏิบัติการแม่น้ำโขงปลอดภัย ในห้วงเดือนพฤศจิกายน 2560 - มีนาคม 2561 สาธารณรัฐประชาชนจีนรับเป็นเจ้าภาพในห้วงเดือนพฤษภาคม – กรกฎาคม 2561 และ สปป.ลาว รับเป็นเจ้าภาพในห้วงเดือนสิงหาคม – ตุลาคม 2561 ทั้งนี้ สำหรับการเป็นเจ้าภาพแผนปฏิบัติการของ สปป.ลาว จะได้ขอรับการสนับสนุนจากประเทศไทยเพื่อเตรียมความพร้อมด้านต่าง ๆ ในการรับรองการปฏิบัติงานร่วมกันของผู้แทนประเทศสมาชิก ณ ศูนย์ประสานงานแม่น้ำโขงปลอดภัยของ สปป.ลาว ณ นครหลวงเวียงจันทน์ ซึ่งสำนักงาน ป.ป.ส. เห็นว่าการรับเป็นเจ้าภาพแผนปฏิบัติการฯ ของทุกประเทศดังกล่าวแสดงให้เห็นถึงความเป็นเจ้าของแผนปฏิบัติการร่วมกัน ซึ่งถือเป็นสัญญาณที่ดีต่อการดำเนินความร่วมมือในการแก้ไขปัญหายาเสพติดในพื้นที่สามเหลี่ยมทองคำเป็นอย่างยิ่ง

--ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา (นายกรัฐมนตรี) วันที่ 22 พฤษภาคม 2561--


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ