อุตสาหกรรมพลาสติกในเประเทศเม็กซิโก

ข่าวเศรษฐกิจ Thursday August 6, 2009 15:22 —กรมส่งเสริมการส่งออก

ประเทศเม็กซิโกเป็นผู้บริโภคสินค้าพลาสติกจัดเป็นอันดับที่สองในกลุ่มประเทศลาตินอเมริกา และเป็นอันดับที่ 14 ของโลก ปริมาณการบริโภคประมาณ สามล้านตันต่อปี หรือจำนวนการบริโภคต่อรายได้ประชาชาติปริมาณ 40 กิโลกรัมต่อปี

สถิติเม็กซิโกได้บันทึกสถิติว่ามีบริษัทผลิตภัณฒ์พลาสติกจำนวน 4,500 แห่ง โดยส่วนใหญ่เป็นบริษัทขนาดเล็กและขนาดกลาง และประมาณร้อยละ 4 เป็นบริษัทขนาดใหญ่ ทั้งนี้ กว่าครึ่งหนึ่งของผู้ผลิตผลิตภัณฒ์พลาสติกมีที่ตั้งโรงงานในเขตรัฐเม็กซิโกและเมืองเม็กซิโกซิตี้ โดยมีอีกส่วนหนึ่งมีที่ตั้งกระจุกตัวอยู่ที่รัฐเนอาโว ลิออน Nuevo Leon และรัฐ ฮาลิสโค Jalisco

อุตสาหกรรมพลาสติกในประเทศเม็กซิโก มีการจ้างแรงงานจำนวนประมาณ 181,000 ตำแหน่งโดยตรง และประมาณกว่า 700,000 ตำแหน่งที่เป็นอุตสาหกรรมต่อเนื่อง โดยโรงงานผู้ผลิตผลิตภัณฒ์พลาสติกขนาดใหญ่เป็นผู้จ้างรายใหญ่และจ้างงานกว่าครึ่งหนึ่งของจำนวนดังกล่าวข้างต้น

ในกลุ่มอุตสาหกรรมสินค้าบรรจุภัณฑ์ทั้งหมดของประเทศ สามารถแบ่งสัดส่วนของวัสดุบรรจุภัณฑ์ ได้ดังนี้ ร้อยละ 60 เป็นการบรรจุสินค้าในรูปแบบแบบขวดและสิ่งบรรจุภัณฑ์ที่ทำมาจากเป็นพลาสติก ร้อยละ 27 เป็นผลิตภัณฑ์ที่บรรจุมาจากวัสดุทำทำจากโลหะ ร้อยละ 10 เป็นสินค้าบรรจุภัณฑ์ที่ผลิตมาจากจากวัสดุกระดาษ และร้อยละ 4 เป็นบรรจุภะณฑ์ที่ทำมาจากแก้ว

ถึงแม้ว่าอุตสาหกรรมพลาสติกของเม็กซิโกจะเป็นอุตสหการรมที่ใหญ่พอประมาณและได้ได้มีการพัฒนามาแล้วประมาณ 50 ปี แต่ผู้ผลิตผลิตภัณฒ์พลาสติกในเม็กซิโกยังมีความจำเป็นที่จะต้องพัฒนาและยกระดับเทคโนโลยีในสูงขึ้น โดยส่วนประกอบชองการยกระดับนั้นมาจาก เครื่องจักร อุปกรณ์ การฝึกแรงงาน และการวางแผนเชิงกลยุทธ์อย่างเร่งด่วน โดยทั้งนี้ สมาคมอุตสาหกกรรมพลาสติกแห่งเม็กซิโก (ANIPAC) ได้รายงานว่า อุตสาหกรรมพลาสติกของเม็กซิโก เคยขยายตัวได้ในอัตราร้อยละ10 ก่อนปี 1990 แต่ในช่วงหลังนี้ขยายตัวได้ลดลงเหลือเพียงร้อยละ 3-4 ฉะนั้น จึงคาดว่า ในระยะสิบปีข้างหน้านี้ จะต้องมีการลงทุนเพื่อปรับปรุงการพัฒนาการผลิต ซึ่งจะต้องใช้เงินลงทุนอีกประมาณ 7-8 พันล้านเหรียญสหรัฐฯ

ถึงแม้ว่าเม็กซิโกจะมีการผลิตวัตถุดิบได้ต่อเนื่องจากผลของการผลิตน้ำมันก็ตาม แต่ยังขาดเทคโนโลยีในการแปรสภาพวัตถุดิบเหล่านี้ จึงต้องส่งออกผลิตภัณฑ์กึ่งแปรรูปเพื่อทำการแปรรูปในสหรัฐฯ อีกต่อหนึ่ง และนำเข้าผลิตภัณฑ์แปรรูปในราคาที่สูงขึ้น

วัสดุที่ใช้ในการผลิตสินค้าพลาสติกส่วนใหญ่ที่นำเข้าจากสหรัฐอเมริกา มีมูลค่าประมาณ 5 พันล้านเหรียญฯ ในปี 2004 ได้แก่ plate, sheet, polyesther, epoxide, olefin, primary, tubing, piping, hoses และเครื่องจักรซึ่งเดิมนำเข้าจากสหรัฐฯ เป็นส่วนใหญ่ อันได้แก่ injection molding machinery, blow molding machinery, extruders, vacuum molding machinery, equipment for rubber work — plastic และชิ้นส่วน ในปัจจุบันเริ่มมีการนำเข้าจากยุโรปมากขึ้น

ทั้งนี้สามารถอ่านรายงานเพิ่มเติมได้ www.cipad.org/files/files/mexico_2006.pdf

งานแสดงสินค้าสำคัญสำหรับอุตสาหกรรมพลาสติกในประเทศเม็กซิโก ได้แก่

งานฯ General Industrial Packaging Materials: http://www.expopack.com.mx/

งานฯ Plastimagen: http://www.plastimagen.com.mx/

หน่วยงานติดต่อสำคัญ ได้แก่

National Association of Plastic Industrialists (ANIPAC) (http://www.anipac.com.mx)

ทั้งนี้ กฎหมายป้องกันการผูกขาดของเม็กซิโกได้ผลักดันให้บริษัทพลาสติก Mexichem ซึ่งเป็นายใหญ่ของประเทศ ได้หันไปขยายกิจการในต่างประเทศแทน

บริษัท Mexichem SAB เป็นผู้ผลิตท่อ PVC ที่ใหญ่ที่สุดในกลุ่มประเทศลาตินอเมริกา (ยอดขายในปี 2008 มีมูลค่า 30.3 พันล้านเหรียญสหรัฐฯ) ได้มีนโยบายว่าจะหยุดการขยายตัวภายในประเทศเม็กซิโก เนื่องจากศาลแพ่งของเม้กซิโกได้ใช้อำนาจของกฏหมายป้องการผูกขาดห้ามให้บริษัท Mexichem ซื้อกิจการอื่นเพิ่มเติม เป็นเหตุให้ฝ่ายวางแผนกลยุทธของบริษัทแถลงข่าวว่า จะหันไปซื้อกิจการเกี่ยวกับพลาสติกในต่างประเทศแทน

เมื่อเดือนเมษายน 2008 บริษัท Mexichem ได้เจรจาการซื้อบริษัท Policyd SA และ Plasticos Rex SA จากกลุ่ม Cydsa ในมูลค่าประมาณ $125 ล้านเหรียญสหรัฐฯ แต่ศาลแพ่งเม็กซิโกไม่อนุมัติการซื้อขายโดยเห็นว่าเป็นการรวมอำนาจธุรกิจของกิจการพลาสติกในมือของบริษัทเดียวมากเกินไป โดยบริษัท Mexichem ได้ซื้อกิจการอื่น ๆ ในอุตสาหกรรมพลาสติกทั้งหมดไปแล้วจำนวน 15 แห่งตั้งแต่ปี 2007 โดยเกือบครึ่งหนึ่งเป็นกิจการที่ได้ซื้อในประเทศเม็กซิโกเอง

บริษัท Policyd เป็นผู้ผลิตเมล็ดเรซิน polyvinyl chloride หรือ PVC อันดับสองของประเทศ Policyd และบริษัท Plasticos Rex เป็นผู้จำหน่ายท่อพีวีซีเป็นอันดับสองและสามของประเทศ

ผลการดำเนินการของบริษัท Mexichem ได้แสดงกำไรลดลงร้อยละ 9.3 ในไตรมาสแรกของปี 2009 โดยมีมูลค่ากำไร 400.4 ล้านเปโซ (ประมาณ 30 ล้านเหรียญสหรัฐฯ) เนื่องจากค่าเงินท้องถิ่น (เปโซ) ที่ลดลงเกือบร้อยละ 30 จากปีที่ผ่านมา

แหล่งข่าว Bloomberg News,

สำนักงานส่งเสริมการค้าในต่างประเทศ ณ กรุงเม็กซิโก

ที่มา: http://www.depthai.go.th


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ