สถานการณ์สินค้าอิเล็คทรอนิกส์ และเครื่องใช้ไฟฟ้าในประเทศญี่ปุ่น เดือนกรกฎาคม 2553

ข่าวเศรษฐกิจ Wednesday July 21, 2010 13:07 —กรมส่งเสริมการส่งออก

1. ภาวะตลาดสินค้าอิเล็คทรอนิกส์ และเครื่องใช้ไฟฟ้า

1.1 ตลาดสื่อประชาสัมพันธ์ทางจอภาพ (Digital signage) ที่สามารถแสดงข้อมูลของสินค้า และบริการที่เป็นภาพนิ่ง หรือภาพเคลื่อนไหว มีมูลค่าสูงถึง 1 ล้านล้านเยนต่อปี โดยเป็นการแข่งขันกันระหว่างบริษัทผู้ผลิตอิเล็คทรอนิกส์รายใหญ่ โดยบริษัทพานาโซนิกส์ ซึ่งเป็นผู้นำในตลาดได้ประกาศจะพัฒนาจอภาพโฆษณา 3 มิติขนาดยักษ์เพื่อใช้โฆษณาสินค้า โดยจะผลิตจอภาพขนาด 85 นิ้ว 103 นิ้ว และขนาดใหญ่ที่สุดเป็นประวัติการณ์ถึง 152 นิ้ว จอภาพของบริษัทฯสามารถแสดงภาพปรกติ 2 มิติ และ 3 มิติ โดยหวังกลุ่มลูกค้าบริษัทที่ต้องการโฆษณาสินค้า และ ลูกค้า

สถานบันเทิงเริงรมย์ และสถานที่พักผ่อนหย่อนใจต่างๆ แม้ว่าราคาจะสูงเริ่มตั้งแต่ 50 ล้านเยน ขึ้นไป แต่บริษัทฯได้รับยอดจองมากกว่า 200 ราย และตั้งเป้าว่าจะถึง 1,000 รายภายใน 1 ปี ส่วนในตลาดโลก พานาโซนิกส์เป็นผู้นำมีสัดส่วนตลาดร้อยละ 20 และในกลุ่มจอภาพที่มีขนาดมากกว่า 80 นิ้วขึ้นไปมีสัดส่วนร้อยละ 80

ส่วนบริษัทชาร์ปได้พัฒนาจอภาพ LCD ขนาด 60 นิ้ว โดยเน้นจอที่มีความบางทำให้แสดงภาพได้ใหญ่ขึ้น รวมทั้งเตรียมระบบรองรับการผลิตข้อมูล (content)

นอกจากบริษัทผู้ผลิตจอภาพ แล้ว บริษัทที่รับพิมพ์ข้อมูลเริ่มเข้ามามีส่วนแบ่งในตลาด เช่นบริษัท Toppan Printing ซึ่งรับผลิตสื่อประชาสัมพันธ์จอภาพให้ซุปเปอร์มาร์เก็ต Ito Yokado จำนวน 15 สาขา โดยลูกค้าสามารถลงทะเบียน และจะได้รับสินค้าตัวอย่างรวมทั้งข่าวสารการลดราคาสินค้าทางอีเมล์ซึ่งบริษัทมีกำไรจากลูกค้าที่ลงโฆษณา รวมทั้งสินค้าตัวอย่างก็มียอดขายเพิ่มมากขึ้นด้วย

1.2 ตลาด smartphone มีการแข่งขันระหว่างบริษัทโทรศัพท์มือถือ Softbank Mobile ,NTT Docomo และ KDDI โดย Softbank เริ่มจำหน่าย iPhone 4 ของ Apple Inc.ซึ่งมีความคมชัดสูง และสามารถถ่ายภาพได้ดีกว่ารุ่นเก่า (3GS) ในวันที่ 24 มิถุนายนที่ผ่านมา และครองตลาดมากกว่าร้อยละ 12 ส่วนรุ่น 3GS ครองตลาดที่ร้อยละ 5-10

NTT Docomo จำหน่าย Xperia ผลิตโดย Sony Ericsson ที่มีจอภาพ LCD ขนาด 4 นิ้ว และกล้องขนาด 8.1 ล้านพิกเซล โดยจำหน่ายแล้วกว่า 200,000 เครื่อง ครองตลาดร้อยละ 10

ส่วน KDDI วางจำหน่าย IS01 ของ Sharp มีจอภาพ LCD ขนาด 5 นิ้ว และ keyboard ที่สามารถพับได้รูปร่างคล้าย คอมพิวเตอร์ Notebook ขนาดเล็ก ครองตลาดอยู่ที่ร้อยละ 2.7

จากการสำรวจของนิคเคอิ ร้อยละ 84.5 ของผู้ใช้ smartphone ใช้ในการรับ-ส่งข้อความ ทางอีเมล์ ร้อยละ 74.6 เข้าดูอินเตอร์เน็ต และร้อยละ 62 ใช้ถ่ายภาพ และถ่ายวีดิโอ เป็นที่คาดว่าตลาด smartphone ในญี่ปุ่นจะโตขึ้นเรื่อยๆ เนื่องจากผู้ใช้โทรศัพท์มือถือต้องการจะเปลี่ยนจากการใช้โทรศัพท์มือถือแบบเดิม

2. ภาวะการจำหน่าย

2.1 จากนโยบาย Eco-point ของรัฐบาลส่งผลให้ยอดขายโทรทัศน์จอแบนสูงขึ้นถึงร้อยละ 57 จำนวน 15.88 ล้านเครื่องในปี 2552 และคาดว่าจะสูงถึง 20 ล้านเครื่องในปี 2553 ผู้ผลิตจำต้องเร่งการขายภายในสิ้นปีก่อนที่นโยบายนี้จะสิ้นสุดลงในเดือนธันวาคม ทำให้แข่งขันในเรื่องราคา โทรทัศน์ที่จำหน่ายที่ Yamada Denki, Yodobashi Camera และ Big Camera ขนาด 32 นิ้ว ของโตชิบา รุ่น Regza 32 A และ 950 S ราคาประมาณ 45,600 เยน ส่วนชาร์ป Aquos LC-32E7 ราคา 45,400 เยน

นอกจากนี้ การจำหน่ายโทรทัศน์ระบบ 3 มิติที่มีราคาเฉลี่ยสูงกว่าโทรทัศน์ธรรมดาประมาณ 100,000 เยน/เครื่อง เป็นกลยุทธ์ทางการตลาดของบริษัทผู้ผลิตโทรทัศน์ เช่น พานาโซนิกส์ ชาร์ป และมิตซูบิชิ

2.2 บริษัทผู้ผลิตชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์คาดว่ายอดขายในช่วงไตรมาสที่3 (กรกฎาคม-กันยายน) น่าจะต่ำกว่าปีก่อนสืบเนื่องจากสภาวะเศรษฐกิจตกต่ำในทวีปยุโรป รวมทั้งการที่ค่าเงินหยวนแข็งค่าขึ้นปรกติแล้ว เดือนกรกฎาคม-กันยายน จะเป็นช่วงที่บริษัทจะยุ่งที่สุดเนื่องจากต้องเร่งผลิตสินค้าสำหรับปลายปี ทั้งนี้ปริมาณการผลิตชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์ยังคงสูงเนื่องจากยอดขายสินค้าโทรทัศน์จอแบน คอมพิวเตอร์โน้ตบุ้ค และ smartphone ที่เพิ่มขึ้นในจีน และตลาดใหม่ๆทำให้มีความต้องการชิ้นส่วนเซมิคอนดักเตอร์ จอภาพ LCD และชิ้นส่วนอื่นๆเพิ่มขึ้นตามไปด้วย

นอกจากนี้ ยอดขายรถยนต์ที่เพิ่มสูงขึ้นมีผลทำให้ความต้องการชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์ที่เป็นส่วนประกอบเพิ่มมากขึ้น ส่งผลให้ยอดขายชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์สูงขึ้นเช่นกัน

3. ความเคลื่อนไหวของบริษัท

3.1 บริษัท Diamond Generating Asia บริษัทผลิตไฟฟ้าสาขาของบริษัทมิตซูบิชิในฮ่องกง จะร่วมกับบริษัท CLP Holding ของฮ่องกง และบริษัทผลิตไฟฟ้า จำกัด (มหาชน) ของไทย ก่อตั้งบริษัท Natural Energy Development โดยจะสร้างโรงไฟฟ้าขนาด 73,000 กิโลวัตต์ ณ จังหวัดลพบุรี และขายให้กับการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย จะเริ่มก่อสร้างในเดือนกรกฎาคม โดยบริษัทชาร์ปร่วมกับบริษัท อิตาเลียน-ไทย จำกัด รับผิดชอบการก่อสร้าง โดยใช้แผ่นโซลาร์เซลล์ของชาร์ปที่ผลิตในโรงงานแห่งใหม่ ณ เมืองซาไก จังหวัดโอซากา คาดว่าจะแล้วเสร็จภายในสิ้นปี 2011

สำนักงานส่งเสริมการค้าฯ ณ นครโอซากา

ที่มา: http://www.depthai.go.th


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ