นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี กล่าวในการเป็นประธานเปิดงานเวทีแสดงวิสัยทัศน์ของพรรคการเมือง : การส่งเสริมสิทธิเสมอภาคหญิงชาย และการมีส่วนร่วมของสตรีทางการเมืองว่า ประเทศไทยแม้จะบรรลุเป้าหมายในการพัฒนาทางด้านสตรี แต่ยังมีความล้าหลังในเรื่องการมีส่วนร่วมทางการเมืองของสตรี
"วัดจากสัดส่วนของสตรีที่เข้ามาดำรงตำแหน่งทางการเมือง ไม่ว่าจะเป็นในฐานะสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร สมาชิกวุฒิสภา หรือในองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ยกเว้นกรณีของวุฒิสภาจะอยู่ที่สัดส่วนประมาณร้อยละ 10 ต้น ๆ เท่านั้นเอง ส่วนกรณีของวุฒิสภาจะอยู่ที่ร้อยละ 20 ต้น ๆ"นายอภิสิทธิ์ กล่าว
นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า การดำเนินนโยบายของรัฐบาลที่ผ่านมาได้ให้ความสำคัญกับเรื่องของมิติหญิงชายหรือมิติทางเพศ ยกเว้นกรณีของภาคการเมือง จะได้เห็นแต่บทบาทของสตรีในวงการธุรกิจและในวงราชการ ซึ่งมีสตรีที่มาดำรงตำแหน่งสูงสุดทางราชการ อาทิ สำนักงบประมาณ สำนักงาน ก.พ. สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา และปลัดกระทรวงต่างๆ อย่างนี้เป็นต้น อีกทั้งขณะนี้การสอบเข้าราชการในหน่วยงานทั้งหลายสตรีประสบความสำเร็จมากกว่าบุรุษ คือ ผู้หญิงสามารถที่จะสอบเข้าในสัดส่วนที่สูงกว่าผู้ชาย
ในขณะที่การเข้าสู่ระบบราชการหรือการเข้าทำงานในภาคเอกชน ผู้หญิงประสบความสำเร็จมากขึ้น ซึ่งอาจจะมากกว่าผู้ชาย แต่ก็ต้องยอมรับว่าปัญหาอุปสรรคที่จะมีความก้าวหน้าทางด้านอาชีพสำหรับผู้หญิงยังมีมากอยู่ การติดตามวิเคราะห์ประเด็นนโยบายทางด้านหญิงชายจะพบความจริงว่าการที่จะต้องมีภาระทางด้านครอบครัวเป็นอุปสรรคสำคัญสำหรับสตรีไม่ใช่เฉพาะในประเทศไทยแต่เป็นทั่วโลก
"รัฐบาลนี้ได้ให้ความสำคัญเป็นพิเศษกับการทำงานร่วมกับประชาคมและชุมชนท้องถิ่นและ พื้นที่ ซึ่งสิ่งหนึ่งที่เราพบเห็นมาโดยตลอดก็คือว่า กลุ่มสตรีจะเป็นกลุ่มที่มีพลังและมีบทบาทสำคัญในแง่ของการทำให้นโยบายหลายด้านที่ไปเกี่ยวข้องกับชุมชนนั้นประสบความสำเร็จ" นายกรัฐมนตรี กล่าว
ด้านนายยงยุทธ วิชัยดิษฐ หัวหน้าพรรคเพื่อไทย กล่าวว่า พรรคเพื่อไทยมี ส.ส.มากที่สุดทั้งหญิงและชายในทางการเมืองผู้หญิงเข้ามาเป็นผู้บริหารโดยตรง และพรรคที่เริ่มเรื่องนี้ คือ พรรคไทยรักไทย ต่อมาคือพรรคพลังประชาชน และเป็นพรรคเพื่อไทย ซึ่งสมัยที่พรรคไทยรักไทยเป็นรัฐบาล ที่ตนเป็นปลัดกระทรวงมหาดไทยได้ตั้งผู้ว่าราชการจังหวัดที่เป็นผู้หญิงถึงสามคน แต่หลังจากนั้นก็ไม่มีผู้ว่าฯหญิงอีกเลย
"เมื่อใดได้เข้ามารับผิดชอบการบริหารราชการแผ่นดิน ก็จะให้ผู้หญิงเข้ามาบริหารจังหวัดอีกครั้ง นอกจากนี้ จะสนับสนุนให้สามีลาไปเลี้ยงดูบุตรได้อย่างน้อย 60 วัน ในช่วงภรรยาคลอด โดยไม่จำเป็นต้องให้ภรรยาลงนามรับรอง " นายยงยุทธ กล่าว
นายสมศักดิ์ โกศัยสุข หัวหน้าพรรคการเมืองใหม่ กล่าวว่า พรรคมีนโยบายสนับสนุน ส่งผู้สมัครสส.ทั้งบัญชีรายชื่อและเขต 50 ต่อ50% ของจำนวนทั้งหมด ซึ่งขึ้นอยู่กับความสนใจของผู้หญิง
อย่างไรก็ตาม พรรคมีศูนย์สาขาพรรคทั่วประเทศ มีกรรมการทั้งหมด 199 คน เป็นผู้หญิง 88 คน ขณะที่กรรมการบริหารพรรค มีทั้งหมด 27 คน เป็นผู้หญิง 16 คน เป็นผู้ชาย 11 คน ซึ่งแสดงให้เห็นว่าพรรคการเมืองใหม่ทำมากกว่าพูด
พล.อ.สนธิ บุญยรัตกลิน หัวหน้าพรรคมาตุภูมิ กล่าวว่า พรรคมีนโนบายสนับสนุนให้สตรีมีบทบาททางการเมือง ในการชี้นำสังคมและนโยบายการเมืองให้มากขึ้น เพราะผู้หญิงมีความซื่อสัตย์ กตัญญู และเป็นตัวอย่างที่ดีของบุตร จึงควรสนับสนุนให้เข้ามามีบทบาท เพื่อตรวจสอบการทำงานของรัฐบาล หรือมีบทบาทในองค์กรภาครัฐในระดับผู้บริหาร พร้อมกับนักการเมืองต้องสนับสนุนให้สตรีมีบทบาทโด่นเด่นเป็นที่ยอมรับในสังคม เพื่อนำไปสู่การสร้างบุคลากรหญิงในระดับท้องถิ่นไปจนถึงระดับชาติ