พธม.เรียกร้อง"สุวิทย์"เปิดเผยถ้อยคำที่ไทยลาออกจากภาคีอนุกรรมการมรดกโลก

ข่าวการเมือง Monday June 27, 2011 12:41 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นายปานเทพ พัวพงษ์พันธ์ โฆษกพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย (พธม.) กล่าวเรียกร้องให้นายสุวิทย์ คุณกิตติ รมว.ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ในฐานะหัวหน้าคณะผู้แทนไทยในการประชุมคณะกรรมการมรดกโลก เปิดเผยถ้อยคำและข้อความในหนังสือลาออกจากการเป็นภาคีอนุสัญญามรดกโลกและกรรมการมรดกโลก เพื่อให้ประชาชนได้รับทราบว่าการลาออกนั้นมีถ้อยคำและใช้ข้อความว่าอย่างไร ซึ่งจะมีนัยยะที่สำคัญว่าไทยอยู่ในสถานภาพที่ไม่รับมติที่ประชุม หรืออยู่ในระดับการลาออกต่อมรดกโลก โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ขอให้ชี้แจงทำความเข้าใจในข้อเท็จจริงว่ามีผลทันทีหรือไม่ และจะมีผลทันทีหรือว่ามีผลในอีกหนึ่งปีข้างหน้า ขอให้เปิดคำชี้แจงในประเด็นนี้ให้เกิดความชัดเจนด้วย

ประการต่อมา หลังจากที่ได้ถอนตัวออกมาแล้วได้ปรากฎว่าคณะกรรมการมรดกโลกยังคงมีการประชุมต่อไป และยังมีการลงมติอนุมัติแผนบริหารจัดการ รวมถึงการพัฒนาพื้นที่รอบปราสาทพระวิหารให้เป็นของกัมพูชา ต่อกรณีดังกล่าวนั้นเราขอประณามคณะกรรมการมรดกโลกและยูเนสโกที่ยังคงลุแก่อำนาจ แม้ว่าไทยจะถอนตัวแล้วแต่ก็ยังดำเนินการอนุมัติแผนบริหารจัดการให้เป็นของกัมพูชาต่อไป ต้องถือว่าประเทศไทยและประชาชนชาวไทยไม่รับมติดังกล่าว เพราะได้ถอนตัวออกมาแล้ว ดังนั้นยูเนสโกหรือคณะกรรมการมรดกโลกจะไม่สามารถเข้ามาในพื้นที่บริเวณรอบปราสาทพระวิหารได้ เพราะถือว่าอยู่ภายใต้อำนาจอธิปไตยของประเทศไทย และประเทศไทยไม่ยินยอมตามมติคณะกรรมการมรดกโลกที่ได้ลงไป

ประการที่สาม ถึงแม้ว่าประเทศไทยจะได้ถอนตัวออกจากมรดกโลกแล้ว แต่เมื่อปรากฏว่าคณะกรรมการมรดกโลกยังคงเดินหน้าอนุมัติแผนบริหารจัดการให้กับกัมพูชาต่อไป ฝ่ายไทยจะต้องดำเนินการทันทีในการผลักดันกัมพูชาออกจากแผ่นดินไทย ไม่เช่นนั้นแล้วพื้นที่ดังกล่าวจะเป็นพื้นที่นำไปสู่การพัฒนาการบริหารจัดการที่ทำให้เกิดเป็นพื้นที่มรดกโลกของกัมพูชาในทางปฏิบัติอีก ก็จะทำให้ประเทศไทยเสียเปรียบโดยทันที ทำให้การลาออกของนายสุวิทย์สูญเปล่า

และในประการถัดมา คือ กรณีของศาลโลก ที่ประเทศไทยยังรับอำนาจศาลโลกอยู่ ยังไม่ถึงขั้นประกาศว่าเราไม่รับอำนาจศาลโลก หรือชี้แจงต่อศาลโลกว่าศาลโลกไม่มีอำนาจและไทยไม่รับคำตัดสินใดๆ ตรงนี้จะเป็นอันตรายต่อไปในอนาคต โดยเฉพาะในระยะสั้นใกล้ที่สุดก็คือมาตรการคุ้มครองชั่วคราว ที่ศาลโลกกำลังจะพิจารณาให้กับกัมพูชาหรือไม่ ถ้าศาลโลกพิจารณาให้กับกัมพูชา ไทยก็จะเสียเปรียบทันที

ในทำนองเดียวกันถ้ากัมพูชาไม่คุ้มครองชั่วคราวและไทยหลงกระโจนเข้าไปรับอำนาจศาลโลก ก็จะต้องถูกตีความในคำพิพากษาศาลโลกเมื่อปี พ.ศ.2505 ในการขยายขอบเขตเกินกว่าตัวปราสาทพระวิหาร ซึ่งหากไทยรับอำนาจศาลโลกแล้วยังมีการตัดสินให้เป็นโทษต่อประเทศไทยแล้ว ก็จะหมายความว่าการดำเนินการในการถอนตัวออกจากมรดกโลกนั้นสูญเปล่า ทำให้สิ่งที่คณะกรรมการมรดกโลกได้อนุมัติไปสามารถเดินหน้าได้ต่อไป โดยทั้งมติคณะกรรมการมรดกโลกและอาศัยยืมมือศาลโลกในชั้นต่อไปด้วย

"การลาออกของนายสุวิทย์จะสูญเปล่าทันทีถ้าไทยไม่ถอน ไม่มีการผลักดันกัมพูชาออกจากแผ่นดินไทย และไม่ดำเนินการประกาศว่าเราไม่รับอำนาจศาลโลก และเลิกเข้าสู่กระบวนการศาลโลก และชี้แจงไปเลยว่า ประเทศไทยได้ถอนตัวออกจากการประกาศปฏิญญาการประกาศรับอำนาจศาลโลกมาแล้วหลังจากคดีปราสาทพระวิหาร และได้ตั้งข้อสงวนเอาไว้กรณีคำตัดสินเมื่อปี พ.ศ.2505 กรณีปราสาทพระวิหารเอาไว้แล้ว ดังนั้นไม่ควรจะมีการดำเนินการที่จะไปรับอำนาจศาลโลกอีกครั้งหนึ่ง"นายปานเทพกล่าว

ด้านพลตรีจำลอง ศรีเมือง แกนนำพันธมิตรฯ กล่าวว่า เป็นเรื่องน่ายินดีที่ประเทศไทยถอนตัวออกจากมรดกโลก สื่อมวลชนให้ความสนใจกันมากเป็นพิเศษ ถ้าสื่อมวลชนได้สนใจเรื่องเสียดินแดนอย่างนี้มาตั้งแต่ต้นแล้ว ตนเห็นว่าสถานการณ์จะดีขึ้นกว่านี้อีก ส่วนกรณีนายสุวิทย์ได้ให้สัมภาษณ์ว่า ต้องตัดสินใจประกาศให้ประเทศไทยถอนตัวออกจากภาคีมรดกโลก เพื่อเป็นการตัดไฟเสียแต่ต้นลม ที่จริงควรจะตัดมาก่อนหน้านนี้นานแล้ว เพราะพันธมิตรฯ ได้รณรงค์เรื่องนี้มานาน ว่าเราสามารถถอนตัวจากภาคีมรดกโลกเมื่อไหร่ก็ได้แล้วควรจะรีบทำ แต่ก็ยังดีที่ทำในตอนท้าย ดีกว่าไม่ทำเลย


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ