"อภิสิทธิ์"จี้พท.-นายกฯทบทวนท่าที หลังกลุ่มเสื้อแดงนัดชุมนุมค้านโผทหาร

ข่าวการเมือง Saturday October 1, 2011 18:44 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์และผู้นำฝ่ายค้าน เปิดเผยว่า กรณีที่ญาติผู้เสียชีวิตและได้รับบาดเจ็บในเหตุการณ์สลายการชุมนุม เดือน เม.ย.-พ.ค.53 และกลุ่มคนเสื้อแดง จะออกมาชุมนุมในวันที่ 1 ต.ค. โดยอ้างว่าเป็นการแสดงออกถึงความไม่พอใจโผแต่งตั้งนายทหารประจำปี อาจสร้างเงื่อนไขความขัดแย้งเพิ่มขึ้นได้ เพราะการแต่งตั้งโยกย้ายของกองทัพนั้นถือว่ากระบวนการสมบูรณ์แล้ว ขณะที่การเยียวยาผู้ได้รับผลจากเหตุการชุมนุม ได้มีคณะกรรมการตรวจสอบและค้นหาความจริงเพื่อความปรองดองแห่งชาติ (คอป.) ที่เสนอต่อรัฐบาล มีการเสนอแนวที่ที่ชัดเจน และให้คณะกรรมการอิสระได้ทำงานต่อ โดยมีข้อเสนอแนะที่จะเยียวยาปรองดองสมานฉันท์อยู่แล้ว

ทั้งนี้ต้องการให้พรรคเพื่อไทย และนายกรัฐมนตรี ได้กำหนดท่าที่ของรัฐบาลที่ชัดเจน หากมีการสร้างบรรยากาศว่าจะมีมวลชนข่มขู่กดดัน จะทำให้เกิดชนวนความขัดแย้งอย่างต่อเนื่อง เพราะหากกลุ่มเสื้อแดงมีการเรียกร้องใดๆ และรัฐบาลยอมทำตามนั้น จะยิ่งเป็นปมความขัดแย้งที่รุนแรงขึ้นในสังคม

"ถ้ามีการเคลื่อนไหวมวลชนโดยมีฝ่ายการเมืองเข้าไปเกี่ยวข้องด้วย ก็จะไม่สอดคล้องกับสิ่งที่รัฐบาลระบุว่าสนับสนุน คอป. เพราะ คอป.มีข้อเสนอชัดเจนว่า การแสดงออกของทางการเมืองของฝ่ายต่างๆ ไม่ควรไปเพิ่มเติมความขัดแย้ง ซึ่ง น.ส.ยิ่งลักษณ์ ก็ได้พูดย้ำเรื่องนี้ในรายการนายกฯ ยิ่งลักษณ์พบประชาชน ในเรื่องความปรองดองด้วย ดังนั้น อยากให้พรรคเพื่อไทยทบทวนท่าทีคนของตัวเองในเรื่องนี้" นายอภิสิทธิ์ กล่าว

ส่วนการที่รัฐบาลประกาศจะลอยตัวก๊าซ LPG และ NGV และเตรียมกู้เงิน 1 หมื่นล้านบาทส่งเข้ากองทุนน้ำมัน ก่อนจะมีการจัดเก็บเงินเข้ากองทุนน้ำมันอีกครั้งหลังปลายปีนี้นั้น ถือเป็นการบิดเบือนนโยบายของพรรคเพื่อไทย และเป็นการสร้างภาระภาษีให้ประชาชนจำนวนมาก ซึ่งปัจจุบันประชาชนเริ่มสับสนเกี่ยวกับนโยบายของพรรคเพื่อไทย เพราะรัฐบาลต้องการประหยัดพลังงาน การบริหารนโยบายพลังงานทั้งระบบ แต่มีโครงการรถคันแรก

นายอภิสิทธิ์ ได้กล่าวปาฐกถาพิเศษ ในการสัมมนาประชาธิปัตย์ฟอรั่ม ครั้งที่ 1 เริ่มประตูตะวันตก ไทย-ทวาย อนาคตใหม่ของประเทศไทย ว่า นโยบายเศรษฐกิจของพรรคจะดำเนินการแก้ไขปัญหาของประชาชน และคิดนโยบายอย่างต่อเนื่อง โดยพรรคจะเน้นกระจายอำนาจลงพื้นที่สู่ภูมิภาค และเข้าถึงระดับจังหวัด ซึ่งกรอบของการพัฒนาของพรรค จะมี 2 กรอบ คืบ กรอบภูมิภาคอาเซียนให้เป็นหนึ่งเดียวกัน ส่วนกรอบที่ 2 จะพัฒนากลุ่มจังหวัด ให้มีการสร้างรายได้ สร้างอาชีพ ซึ่งเป็นทักษะที่ทางพรรคจะต้องดำเนินการ


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ