ส.ว.เตือนรัฐบาลศึกษาการออกพ.ร.ก.การเงินให้รอบคอบหวั่นขัดรัฐธรรมนูญ

ข่าวการเมือง Monday January 9, 2012 18:09 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นายอนุรักษ์ นิยมเวช สมาชิกวุฒิสภา กล่าวว่า เป็นห่วงแนวทางการออก พ.ร.ก.การเงิน เพื่อโอนหนี้กองทุนฟื้นฟู 1.14 ล้านล้านบาท กลับไปให้ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) เป็นผู้รับผิดชอบ เพื่อดำเนินการกู้เงิน 3.5 แสนล้านบาทมาบริหารจัดการระบบน้ำและวางโครงสร้างประเทศไทยใหม่ รวมทั้งการจัดตั้งกองทุนประกันภัยอีก 5 หมื่นล้านบาท และกรอบการแก้ไขเพิ่มเติมที่ ธปท.สามารถออกเงินกู้หรือซอฟต์โลนอีก 3 แสนล้านบาท รวมทั้งหมด 7 แสนล้านบาท ซึ่งจะทำให้เป็นภาระหนี้นอกงบประมาณ นอกเหนือจากที่กำหนดไว้งบประมาณรายจ่ายประจำปี 2555 อีก 4 แสนล้านบาท

ดังนั้น รัฐบาลควรศึกษาให้รอบครอบว่าการดำเนินการดังกล่าวสอดคล้องกับรัฐธรรมนูญมาตรา 184 วรรค 2 ที่ระบุว่าการออก พ.ร.ก.การเงินต้องเป็นกรณีฉุกเฉิน มีความจำเป็นเร่งด่วนอันมิอาจหลีกเลี่ยงได้หรือไม่ เพราะ ส.ส. ส.ว. หรือสมาชิกรัฐสภา 1 ใน 5 สามารถเข้าชื่อยื่นให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยได้

นายอนุรักษ์ กล่าวอีกว่า การกู้เงินเพื่อแก้ปัญหาอุทกภัย 3.5 แสนล้านบาทเป็นเงินกู้นอกงบประมาณ แต่รัฐบาลยังไม่มีรายละเอียดโครงการ ทำให้รัฐสภาไม่สามารถตรวจสอบได้ ซึ่งรัฐบาลสามารถออกเป็น พ.ร.บ.งบประมาณกลางปีได้ ดังนั้น รัฐบาลต้องดูว่าเข้าเงื่อนไขที่จะออกเป็น พ.ร.ก.ได้หรือไม่ รวมถึงโครงการซอฟต์โลนที่ให้ ธปท.สามารถอนุมัติปล่อยสินเชื่อได้ โดยหลักการรัฐบาลสามารถใช้กลไกโดยธนาคารของรัฐเพื่อดำเนินการดังกล่าวได้แทนที่จะผลักภาระให้ ธปท.

ส่วนการโอนภาระหนี้กองทุนฟื้นฟูฯจากกระทรวงการคลังไปให้ ธปท. จำนวน 1.14 ล้านล้านบาท ต้องถามว่าเป็นการโอนหนี้จริงหรือไม่ หรือเป็นการผลักภาระในการชำระหนี้พร้อมดอกเบี้ย ซึ่ง ธปท.อาจผลักภาระต่อไปให้ประชาชนในอนาคต ทำให้ ธปท.ขาดอิสระในการดำเนินการ จึงอยากให้รัฐบาลดูกฎหมายด้วยความรอบคอบ ไม่เช่นนั้นหากศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยว่าขัด รัฐบาลจะต้องรับผิดชอบทางการเมือง


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ