ดร.ซาเดค ซิบาคาลัม อาจารย์คณะรัฐศาสตร์ประจำมหาวิทยาลัยเตหะราน กล่าวว่า มาตรการคว่ำบาตรของสหภาพยุโรป (อียู) ที่สั่งห้ามนำเข้าน้ำมันจากอิหร่าน รวมทั้งคว่ำบาตรธนาคารกลางอิหร่านนั้น จะส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจของอิหร่านเล็กน้อย แต่ไม่ได้สร้างความเสียหายรุนแรง
เมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา อียูได้สั่งคว่ำบาตรการนำเข้าน้ำมันจากอิหร่าน และยังได้คว่ำบาตรธนาคารกลางอิหร่าน เพื่อเพิ่มแรงกดดันที่อิหร่านดำเนินโครงการพัฒนาอาวุธนิวเคลียร์ อย่างไรก็ตาม ดร.ซิบาคาลัมกล่าวว่า “ผมไม่คิดว่าจะเป็นปัญหาใหญ่สำหรับอิหร่าน แน่นอนอาจจะก่อให้เกิดปัญหาบ้าง แต่ไม่ใช่เรื่องใหญ่โต"
ดร.ซิบาคาลัมให้เหตุผลว่า ชาติสมาชิกอียูนำเข้าน้ำมันจากอิหร่านเพียง 15-20% ของการส่งออกน้ำมันทั้งหมดของอิหร่านเท่านั้น ขณะที่อีก 80% ส่งออกไปยังประเทศอื่นๆนอกกลุ่มอียู ไม่ว่าจะเป็นอินเดีย ญี่ปุ่น เกาหลีใต้ ด้วยเหตุนี้การคว่ำบาตรของอียูจึงยังไม่ส่งผลกระทบอะไรในเวลานี้
“ตอนนี้อิหร่านสามารถหาลูกค้าใหม่มาแทนยอดส่งออกไปยังยุโรปที่หายไป 15-20% นี้ได้สบายๆครับ"
อย่างไรก็ตาม ดร.ซิบาคาลัมยอมรับว่า หากลูกค้านอกทวีปยุโรปตัดสินใจคว่ำบาตรตามสหรัฐและยุโรป ก็อาจจะทำให้เกิดปัญหาตามมา และยังกล่าวถึงการคว่ำบาตรธนาคารกลางอิหร่านด้วยว่า อาจจะสร้างปัญหามากมายให้กับอิหร่าน
แต่ประเด็นก็คือ อิหร่านมีประสบการณ์ยาวนานในการหาหนทางใหม่ๆเพื่อหลบหลีกมาตรคว่ำบาตร"
เมื่อถามถึงความเห็นกรณีที่ทางการอิหร่านขู่ปิดช่องแคบฮอร์มุซ ดร.ซิบาคาลัมกล่าวว่า อิหร่านไม่มีเหตุผลที่จะต้องทำ เว้นเสียแต่ว่าจะโดนบีบบังคับเท่านั้น
“ตราบใดที่อิหร่านยังเอาตัวรอดได้ ยังส่งออกน้ำมันต่อไปได้ อิหร่านจะไม่ปิดช่องแคบฮอร์มุซบ ผมกำลังจะบอกว่า การปิดช่องแคบฮอร์มุซเป็นทางเลือกสุดท้าย" สำนักข่าวซินหัวรายงาน