พท.เผยมีกลุ่มนักการเมือง-ทหารแพ้เลือกตั้งจ้องล้มรัฐบาล ยันไม่แก้ ม.112

ข่าวการเมือง Sunday January 29, 2012 14:58 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นายพร้อมพงศ์ นพฤทธิ์ โฆษกพรรคเพื่อไทย (พท.) เปิดเผยว่า กรณีที่มีกลุ่มเครือข่ายประกอบด้วยนักการเมือง นักวิชาการ สื่อมวลชน และทหาร รวมตัวกันเคลื่อนไหวกับผู้ใช้แรงงานและเกษตรกรทั่วประเทศ ในการดำเนินการเชื่อมโยงให้เห็นว่าสมาชิกพรรคเพื่อไทยเห็นด้วยกับการแก้ไขประมวลกฎหมายมาตรา 112 นั้นเป็นการบิดเบือนข้อเท็จจริง ทางพรรคขอเรียกร้องให้หยุดพฤติกรรมดังกล่าว และใช้เป็นข้ออ้างตอบโต้กัน เพราะกลุ่มดังกล่าวเป็นกลุ่มที่เสียอำนาจและแพ้การเลือกตั้ง จึงพยายามที่จะทำให้บ้านเมืองเกิดความวุ่นวายและจะเข้ามาสู่อำนาจอีกครั้ง ขณะที่พรรคและรัฐบาลมีจุดยืนชัดเจนที่ไม่มีการแก้ไขมาตรา 112 อย่างแน่นอน เพราะไม่เป็นประโยชน์ต่อประชาชน และยังเทิดทูนสถาบันพระมหากษัตริย์มาโดยตลอด

ส่วนการสำรวจของพรรค พท.ในการทำงานของรัฐบาลเรื่องการปราบปรามยาเสพติดนั้นประชาชนส่วนมากพอใจ และผลสำรวจออกมาจากกลุ่มตัวอย่าง 2,000 คนนั้น ประชาชนชื่นชมและให้คะแนน 73 เปอร์เซ็นต์ และขอให้ดำเนินการอย่างต่อเนื่อง ในการจับกุมผู้ค้าทำให้ปัญหายาเสพติดลดลง รวมถึงอีกปัญหานึงที่อยากให้รัฐบาลแก้ไขคือการแก้ไขปัญหาความยากจน โดยตนจะนำเรื่องนี้เข้าที่ประชุมพรรคเพื่อให้เป็นนโยบายเดียวกับการแก้ไขปัญหายาเสพติด

นอกจากนี้ ตนเองได้มีการตรวจสอบข้อมูลที่นายชวนนท์ อินทรโกมารสุต โฆษกพรรคประชาธิปัตย์ อ้างว่ามีเว็บไซต์จัดอันดับผู้นำยอดแย่และมีรายชื่อของ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีอยู่ในอันดับที่ 1 พบว่าเป็นข้อมูลที่ไม่มีความน่าเชื่อถือและเป็นการแสดงความคิดเห็นของคนเดียว และน่าจะเป็นกระบวนการที่มาจากฝ่ายตรงข้ามในการทำลายความน่าเชื่อถือของ พ.ต.ท.ทักษิณอย่างแน่นอน ถือเป็นการทำหน้าที่ไม่สมเหตุสมผล จึงขอเรียกร้องให้นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ดูแลบุคคลในพรรคไม่ให้ออกมาทำลายความน่าเชื่อถือฝ่ายตรวข้ามอย่างไม่สมเหตุสมผล

นายพร้อมพงศ์ยังกล่าวถึงกรณีที่นายชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์ หัวหน้าพรรครักประเทศไทย ออกมาเปิดเผยเรื่องบ่อนการพนันต่างๆ ในพื้นที่กรุงเทพมหานครว่า เป็นเรื่องที่ดี เพื่อให้รัฐบาลสามารถดำเนินการแก้ไขได้ ซึ่งคณะทำงานของพรรคได้สำรวจแล้วพบว่าบางข้อมูลเป็นข้อมูลเท็จ จึงเรียกร้องไปยังนายชูวิทย์ให้ดำเนินการเรื่องนี้อย่างตรงไปตรงมาเพราะอาจมีวาระซ้อนเร้นที่อาจจะเป็นการทำลายความน่าเชื่อถือของพล.ต.อ.เพรียวพันธ์ ดามาพงศ์ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติและรัฐบาลว่าละเลยหน้าที่ในการตรวจสอบ


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ