นางสดศรี สัตยธรรม กรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ด้านกิจการพรรคการเมืองและการออกเสียงประชามติ กล่าวว่า นายจตุพร พรหมพันธุ์ ส.ส.แบบบัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย ยังสามารถปฏิบัติหน้าที่ ส.ส.ต่อไปได้ แม้ว่าศาลรัฐธรรมนูญจะรับคำร้องเมื่อวันที่ 8 มีนาคม เพื่อพิจารณาวินิจฉัยความเป็นสมาชิกภาพส.ส.ของนายจตุพร
เนื่องจากกรณีของนายจตุพร เป็นการวินิจฉัยในเรื่องความเป็นสมาชิกภาพตามรัฐธธรรมนูญ มาตรา 91 แตกต่างกับการให้เพิกถอนสิทธิเลือกตั้ง (ใบแดง) หรือสั่งให้เลือกตั้งใหม่(ใบเหลือง) ตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 239 กรณีเมื่อปรากฎว่ามีการเลือกตั้งไม่สุจริตและเที่ยงธรรม และเมื่อศาลฎีการับคำร้องแล้วตามกฎหมายระบุให้ส.ส.ที่ถูดให้ใบเหลืองหรือใบแดงจะต้องหยุดการปฏิบัติหน้าที่ทันทีจนกว่าศาลจะมีคำสั่ง
แต่กรณีของนายจตุพร กกต.วินิจฉัยตามมาตรา 91 ซึ่งไม่ได้บอกว่าเมื่อศาลรัฐธรรมนูญรับคำร้องแล้วจะต้องหยุดการปฏิบัติหน้าที่ส.ส.ด้วย ดังนั้น เมื่อ กกต.ส่งเรื่องไปยังประธานสภาผู้แทนราษฎรและส่งคำร้องไปยังศาลรัฐธรรมนูญแล้ว นายจตุพร ก็ยังคงปฏิบัติหน้าที่ส.ส.ได้อยู่จนกว่าศาลจะมีคำวินิจฉัย และหากศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยว่านายจตุพรพ้นจากสมาชิกภาพ ก็จะทำให้นายจตุพรสิ้นสุดความเป็นส.ส.นับแต่วันที่ศาลมีคำวินิจฉัย
ส่วนกรณีที่นพ.ตุลย์ สิทธิสมวงศ์. ผู้ประสานงานเครือข่ายพลเมืองอาสาปกป้องแผ่นดินยื่นคำร้องขอให้ กกต.ส่งศาลรัฐธรรมนูญพิจารณายุบพรรคเพื่อไทยที่รับรองนายจตุพร ลงสมัคร ส.ส.นั้น นางสดศรี กล่าวว่า หากมีการยื่นคำร้องเข้ามายังกกต. ก็อาจต้องตั้งคณะอนุกรรมการขึ้นมาไต่สวนข้อเท็จจริง ทั้งนี้กรณีของนายจตุพร กกต.เคยมีมติรับรองไปแล้วว่านายจตุพร มีคุณสมบัติลงรับสมัครเลือกตั้งได้ ซึ่งหากมีการยื่นคำร้องเข้ามา กกต.ก็คงต้องดูข้อเท็จจริงและรายละเอียดก่อน เพราะกรณี้อาจคาบเกี่ยวกับเรื่องการเมือง