"ประยุทธ์" เล็งลดขนาดคสช.-สั่งทุกหน่วยสรุปงาน เตรียมส่งมอบรัฐบาลใหม่

ข่าวการเมือง Friday August 1, 2014 13:39 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

พล.อ.อุดมเดช สีตบุตร รองผู้บัญชาการทหารบก ในฐานะเลขานุการคณะรักษาความสงบแห่งชาติ(คสช.) เป็นประธานการประชุมการปฏิบัติงานของแต่ละฝ่ายในคสช. โดยที่ประชุมได้รับทราบการเตรียมความพร้อมด้านต่างๆ หลังมีพระบรมโปรดเกล้าฯ แต่งตั้งสมาชิกสภานิติบัญญัติแห่งชาติ(สนช.) 200 คน โดย พล.อ.อุดมเดช เน้นย้ำให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเตรียมพร้อมดำเนินการตามกรอบปฏิทินของสนช. และขอให้สำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ(สศช.), สำนักงานเลขาธิการคณะรัฐมนตรี เร่งดำเนินการจัดทำร่างคำแถลงนโยบายรัฐบาลให้เสร็จสิ้นและส่งมาให้ คสช.ภายในวันที่ 15 ส.ค.นี้

รวมถึงขอให้สำนักงบประมาณจัดทำร่างคำชี้แจงงบประมาณรายจ่ายประจำปี 58 ที่ คสช.จะต้องชี้แจงต่อ สนช.ให้เสร็จสิ้นภายในสัปดาห์แรกของเดือนส.ค. พร้อมขอให้ทุกฝ่ายสรุปผลงานในช่วงที่ผ่านมา และแผนงานใน 1 ปีต่อจากนี้ โดยกำหนดเป้าหมายและตัวชี้วัดให้ชัดเจนในรอบ 3 เดือน เพื่อใช้เป็นแนวทางดำเนินงานของรัฐบาล โดยจัดทำเป็นวีดีทัศน์เผยแพร่ก่อนมีรัฐบาลใหม่ รวมทั้งยังได้เน้นย้ำในเรื่องของการจัดซื้อจัดจ้างในการดำเนินโครงการต่างๆ ว่าให้ดำเนินการด้วยความโปร่งใส ไม่มีผลประโยชน์ทับซ้อน

พล.อ.อุดมเดช กล่าวในที่ประชุมว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา หัวหน้าคสช. ขอให้ทุกฝ่ายช่วยทำความเข้าใจกับสังคมว่า คสช. ไม่ใช่รัฐบาล เป็นงานคนละส่วนกัน แต่จะทำงานคู่ขนานกัน ซึ่งหลังจากนี้โครงสร้าง คสช.จะลดขนาดลงเพื่อให้เหมาะสมกับการปฏิบัติงานควบคู่กับรัฐบาล ดังนั้นให้แต่ละฝ่ายเร่งสรุปผลงานส่งให้สำนักงานเลขานุการ คสช. เพื่อเตรียมส่งข้อมูลต่อให้กับรัฐบาลชุดใหม่ที่จะเกิดขึ้นภายในเดือนก.ย.นี้

ขณะเดียวกัน หัวหน้าคสช.ขอให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง และกองกำลังรักษาความสงบ(กกล.รส.) เตรียมพร้อมช่วยเหลือผู้ประสบภัยพิบัติต่างๆ และให้เร่งรัดจับกุมนายทุนและขบวนการบุกรุกทำลายป่า รวมถึง ติดตามการดำเนินคดีให้ถึงที่สุด ส่วนการแก้ไขปัญหาจังหวัดชายแดนภาคใต้ได้เน้นย้ำให้กอ.รมน.ภาค 4 พยายามควบคุมเหตุการณ์ความรุนแรงให้ได้ โดยเฉพาะในพื้นที่ชุมชนใหญ่ รวมถึงให้เร่งแก้ปัญหาเรื่องของเครื่องบินโดยสารสำหรับชาวมุสลิมในภาคใต้จำนวน 540 คน ที่จะเดินทางไปประกอบพิธีฮัจญ์ที่ประเทศซาอุดิอารเบีย

ด้านพล.อ.ไพบูลย์ คุ้มฉายา หัวหน้าฝ่ายกฎหมายและกระบวนการยุติธรรม คสช. ได้รายงานในที่ประชุมว่า ขณะนี้มีกฎหมายที่เตรียมจะเข้าสู่การพิจารณาของ สนช.จำนวน 43 ฉบับ ซึ่งจะมีการพิจารณาไปตามความจำเป็นเร่งด่วน คาดว่า สนช.จะเริ่มพิจารณาได้ตั้งแต่วันที่ 13 ส.ค.เป็นต้นไป

ขณะที่ฝ่ายความมั่นคง กระทรวงการต่างประเทศ ได้รายงานการช่วยเหลือคนไทยในลิเบียเนื่องจากภาวะสงครามว่า แผนอพยพคนไทยนั้นแบ่งเป็น 3 กลุ่ม คือ กลุ่มที่ 1 กลุ่มที่มีความเสี่ยงสูงสุด ได้แก่ นักเรียนไทยและคนไทยในกรุงตริโปลี จำนวน 40 คน กล่มที่ 2 คนไทย จำนวน 70 คน บริเวณเมืองอัลเบด้า และกลุ่มที่ 3 คนไทย 1,400 คน ซึ่งกระจายอยู่ตามเมืองต่างๆ โดยจะทยอยอพยพกลับประเทศไทยตามความจำเป็นเร่งด่วน

นอกจากนี้ กระทรวงกลาโหมและกองบัญชาการกองทัพไทย ได้รายงานการแก้ไขปัญหาแรงงานต่างด้างและการค้ามนุษย์ว่า ศูนย์ประสานรับแรงงานกลับเข้าทำงานเฉพาะในจังหวัดจันทบุรีและสระแก้วได้ขยายระยะเวลาเปิดดำเนินการถึงวันที่ 31 ต.ค.57 พร้อมกันนี้ได้จัดตั้งศูนย์บริการแรงงานต่างด้าวแบบเบ็ดเสร็จเพิ่มเติมใน 53 จังหวัด เพื่อให้ครบถ้วนทั่วประเทศ โดยจะรับจดทะเบียนไปจนถึงวันที่ 31 มี.ค.58


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ