ก่อนหน้านี้ สมาชิก สนช. อภิปรายตั้งข้อสังเกตในเนื้อหาสาระของร่างข้อบังคับอย่างกว้างขวาง โดยเฉพาะหลักการและเหตุผลของการเพิ่มหมวดว่าด้วยการพ้นสมาชิกภาพของ สนช. และการถอดถอนผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง และเห็นว่าการพิจารณาควรเป็นไปตามหลักของข้อเท็จจริง ต้องไม่มีเจตนาในมุ่งเป้าไปที่บุคคลใดบุคคลหนึ่ง
ขณะที่นายตวง อันทะไชย สมาชิกสนช. ในฐานะโฆษกคณะกรรมาธิการยกร่างฯ กล่าวถึงการเพิ่มเติมข้อบัญญัติว่าด้วยการถอดถอนผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองไว้ในข้อบังคับการประชุมได้พิจารณาด้วยความรอบคอบแล้ว โดยการเทียบเคียงกับรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย(ฉบับชั่วคราว) พ.ศ.2557 มาตรา 6 ที่ให้อำนาจ สนช. ปฏิบัติหน้าที่เทียบเท่า ส.ส.และ ส.ว. และเป็นการดำเนินการตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญโดยไม่มีเจตนากำจัดนักการเมือง พรรคการเมือง หรือบุคคลหนึ่งบุคคลใด
ส่วนเรื่องการพ้นสมาชิกภาพของสมาชิก สนช.นั้น กรรมาธิการยกร่างฯ ยืนยันว่า มีเจตนาเพื่อให้การประชุม สนช.เป็นไปด้วยความเรียบร้อย และต้องการให้สมาชิกมาประชุมให้ครบองค์ประชุม และการกำหนดเกณฑ์ 90 วัน เพราะไม่ต้องการใช้ระบบที่เข้มงวดเกินไป จึงนำหลักการประเมินจากระบบไตรมาสมาใช้เพื่อความเหมาะสม ซึ่งจะสร้างความคล่องตัวในการทำงานให้กับสมาชิก สนช.