พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า ส่วนความห่วงใยจากนายบัน คี มูน เลขาธิการสหประชาชาติ ถึงการแสดงความคิดเห็นในประเทศนั้น ได้ชี้แจงว่ารัฐบาลไม่ได้ปิดกั้น แต่อยากให้เป็นการแสดงความคิดเห็นในเชิงสร้างสรรค์ แต่หากมีการวิพากษ์วิจารณ์ ก็แค่เชิญเข้ามาพูดคุยเพื่อทำความเข้าใจ ไม่ได้ข่มขู่หรือทำร้ายร่างกายผู้ที่ความเห็นต่างแต่อย่างใด
นอกจากนี้ ไทยยังพร้อมที่จะเตรียมตัวทำหน้าที่ประธานกลุ่มประเทศกำลังพัฒนา(G77) ในปีหน้า ขณะที่การหาเสียงเป็นสมาชิกไม่ถาวรของคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติ จากการเดินสายพูดคุยหลายประเทศแล้ว ก็มั่นใจว่าจะได้การสนับสนุน แม้จะมีคู่แข่งอย่างเช่นประเทศคาซักสถาน
นอกจากนี้ จากการพบสมาคมธุกิจของสหรัฐฯ ทุกคนต่างมีท่าทีที่ดี และรับปากว่าจะไปพูดกับฝ่ายการเมืองของเขาด้วยว่าไม่มีปัญหาอะไรกับไทย ส่วนในเวทียูเอ็นนั้น ตนได้พูดถึงแนวทางของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เพราะแม้กระทั่งประธานาธิบดีสหรัฐฯ ยังพูดคำว่า อย่าให้ปลา แต่ต้องให้เบ็ดตกปลา ซึ่งเป็นพระราชดำรัสของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทั้งนี้ มีกำหนดการเดินทางไปสหรัฐฯอีกครั้งประมาณเดือน ก.พ.-มี.ค. นี้
ผู้สื่อข่าวถามว่า เมื่อผ่านเวทียูเอ็นแล้วทำให้เกิดความมั่นใจหัวใจพองโตขึ้นหรือไม่ พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า หัวใจเท่าเดิม หัวใจตนเองยิ่งใหญ่สำหรับประเทศไทยอยู่แล้ว ไม่ต้องสนใจใคร ส่วนจะเป็นการเพิ่มความมั่นใจหรือไม่นั้น ตนมั่นใจตั้งแต่วันที่ 22 พ.ค.57 แล้ว หากไม่มั่นใจคงไม่เข้ามา ซึ่งวันนี้ประเทศต้องเดินหน้าและสร้างความมั่นใจแก่ต่างชาติ ซึ่งการไปรร่วมประชุมในเวทีโลกคิดเพียงว่าทำเพื่อประเทศไทย ไปพูดในสิ่งที่ทำ และยืนยันว่าที่ผ่านมาไม่เคยเอาเรื่องเสียหายของประเทศไปพูดบนเวทีโลก ซึ่งถือเป็นความแตกต่างจากที่ผ่านมา
"การที่เราไปประจานประเทศตัวเองคงไม่เหมาะ ผมจะพูดเรื่องความเสียหายของประเทศที่ผ่านมาให้น้อยลง ฉะนั้นเวลาฟังใครพูดเสียหายต่อประเทศไทย พูดอะไรก็พูดไป แต่ผมจะแก้ไขและอธิบายว่าไม่ใช่แบบนั้น ทุกอย่างเป็นไปตามกระบวนการยุติธรรม ส่วนที่มีข่าวว่าจะฟ้องกระบวนการก็เป็นขั้นตอนตามกฎหมาย แต่ก็ดีใจที่เขามาต่อสู้ด้วยวิธีการยุติธรรม เพราะที่ผ่านมาส่วนใหญ่เขาไม่เข้ามา ชอบไปพูดข้างนอก ถ้าเห็นว่าไม่เป็นธรรมก็มาฟ้องร้อง ดีกว่าไปประจานประเทศตัวเองข้างนอก เพราะปัญหาเหล่านี้พวกท่านทำไว้ทั้งสิ้น และเวลาผมไปต่างประเทศ รู้สึกว่าเขาไม่รู้อะไรหลายเรื่อง สิ่งที่ดีๆ ที่เราทำ หรือสิ่งที่เป็นปัญหาบ้านเมืองเราอาจไม่รู้ หรืออาจจะไม่คิดว่ายังมีอย่างนี้อยู่อีก การไปยูเอ็นครั้งนี้ก็ขึ้นอยู่กับเขาจะเชื่อมั่นเราแค่ไหน แต่ก็ใช้ความจริงใจเหมือนที่มีให้พี่น้องคนไทย"พล.อ.ประยุทธ์ กล่าว