"มีความพยายามที่จะบิดเบือนข้อมูล จะบีบบังคับให้ท่านนายกฯ ประกาศยกเลิกโครงการให้ได้ ที่ผ่านมาท่านยังไม่ได้สั่งให้ทำอะไรเลย เพียงแต่ปรารภว่ามีข้อมูลในโซเชียลมีเดียหลายอย่างที่เป็นผลร้ายต่อสังคม...นี่คือข้อห่วงใย ท่านเลยสั่งการให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง โดยเฉพาะไอซีทีไปดูว่าเรื่องราวที่เกี่ยวข้องกับข้อห่วงใยนี้มีอะไรบ้าง มีผลดีอะไรบ้าง มีผลเสียอะไรบ้าง" พล.ต.สรรเสริญ แก้วกำเนิด โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าว
โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ปัจจุบันมีกฎหมายเอาผิดทั้งผู้ที่ปลุกระดม และผู้ที่เข้าไปโจมตีเว็บไซต์ของภาครัฐ ซึ่งไม่อยากให้คนหลงผิดแล้วมาเสียใจในภายหลัง ขณะที่เว็บไซต์ของภาครัฐจะทำขึ้นเพื่อบริการประชาชน หากมีการเข้าไปโจมตีก็จะสร้างความเดือดร้อนให้กับคนอื่น
"ก็เป็นประเทศไทย เป็นบ้านของเราเองแล้วจะไปเผาบ้านทำไม" พล.ต.สรรเสริญ กล่าว
ขณะที่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคณะรักษาควาสงบแห่งชาติ(คสช.) ยืนยันว่า ยังไม่มีการดำเนินการเรื่องดังกล่าว แต่เป็นเพียงการมอบหมายให้ไปศึกษาแนวทาง ซึ่งหากไม่เกิดประโยชน์ ละเมิดกฎหมาย และละเมิดสิทธิมนุษยชน ก็จะไม่ดำเนินการ แต่ก็อยากให้พิจารณาว่าสื่อโซเชียลทุกวันนี้มีสิ่งไม่ดีมากมาย ดังนั้น เห็นว่าจะต้องวางมาตรการเพื่ออนาคตของลูกหลาน
"ถ้าผิดกฎหมาย ละเมิดสิทธิมนุษยชนก็ไม่ทำ ก็แค่นั้นเอง ก็ไปดูต่างประเทศว่าเค้าทำกันอย่างไร เพียงแต่ว่าถ้าท่านมองอย่างเดียวก็เป็นอย่างนั้น แต่ท่านเคยคิดหรือไม่ว่า การใช้โซเซียลมีเดียในทางที่ผิด มันเยอะมั้ยวันนี้ แล้วท่านไม่เป็นห่วงลูกหลานท่านหรือ ไม่ห่วงสังคมหรือว่าเป็นอย่างไร ถ้ารัฐไม่ทำอะไรก็ดีอยู่แล้ว ผมก็ดีอยู่แล้ว แล้วท่านช่วยรัฐตรงไหนบ้าง ท่านไม่ห่วงลูกหลานหรือ ท่านไปหามาตรการอะไรมาก็ได้ ที่ไม่ใช่ซิงเกิ้ลเกตเวย์ ยังไม่ได้ทำอะไรซักอย่าง ทำไมเดือดร้อนกันนักหนา" พล.อ.ประยุทธ์ กล่าว