(เพิ่มเติม) นายกฯ ยันไม่คิดปรับ ครม. แต่รับห่วง"อุดมเดช"แนะรอผลสอบ"ราชภักดิ์"ก่อน

ข่าวการเมือง Thursday December 3, 2015 11:29 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ(คสช.) ยืนยันยังไม่มีแนวความคิดที่จะปรับคณะรัฐมนตรี(ครม.)ในขณะนี้ ท่ามกลางแรงกดดันให้ พล.อ.อุดมเดช สีตบุตร รมช.กลาโหม ในฐานะอดีตผู้บัญชาการทหารบก(ผบ.ทบ.) และประธานมูลนิธิอุทยานราชภักดิ์ ลาออกจากตำแหน่ง รวมถึงกระแสข่าวนายกรัฐมนตรีไม่พอใจการทำงานของรัฐมนตรีบางคนในทีมเศรษฐกิจ

"มีก็มีไปสิ ผมก็คิดของผมอยู่ แล้วจะทำไม บอกแล้วว่าให้มีการตรวจสอบมาก่อน กะว่าจะให้ผมพูดยอมรับให้ได้หรือ ผมไม่ทำตามกระแส ผมให้ความเป็นธรรมทุกคน ถ้าผมทำตามกระแส ผมคงไม่ต้องพิจารณาทั้งเรื่องจำนำข้าวและเรื่องอะไรต่างๆ ก็คงไม่ต้องพิจารณา แล้วทำไมไม่มาเร่งรัด มาเร่งผมสิ แล้วผมให้ความเป็นธรรมหรือไม่ มาเร่งผม ไปเตรียมของตัวเองให้ดีเถอะ"พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวถึงกระแสข่าวดังกล่าว

นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ขอให้รอผลสอบเรื่องโครงการก่อสร้างอุทยานราชภักดิ์ของคณะกรรมการที่กระทรวงกลาโหมตั้งขึ้นออกมาก่อน ทั้งในส่วนของการใช้งบกลาง รวมถึงเงินบริจาค และผลสำเร็จของการก่อสร้างครั้งนี้ ซึ่งความรู้สึกลึกๆ ส่วนตัวไม่เชื่อว่าโครงการนี้จะมีการทุจริต เพราะทุกคนที่เกี่ยวข้องมีเจตนาดี แต่ยอมรับว่าอาจจะมีผู้กระทำผิดบ้าง โดยเฉพาะผู้ที่หลบหนีหมายจับไปแล้ว

"ก็แน่นอน ใครจะคิดว่าจะมีการทุจริต แต่ก็ต้องไปดูว่าทุจริตทั้งโครงการหรือไม่ ทุจริตที่บุคคล หรือตรงส่วนไหน รายรับ-รายจ่าย ซึ่งมีงบฯกลางอยู่ส่วนหนึ่งที่เอาลงไปนั้นมีความชัดเจนหรือไม่ ถูกต้องหรือไม่ และงบบริจาคมาจากไหนบ้าง ถูกต้องหรือไม่....มันมีส่วนหนึ่งที่ผิด ผิดโดยคนไม่กี่คน และคิดว่าคนส่วนนี้จะอยู่ในนี้อย่างนั้นหรือ ตรวจอย่างไรก็ไม่เจอเพราะคนมันขี้โกง มันก็ต้องสอบคนที่ต้องรับผิดชอบอยู่แล้ว เพราะถ้าไม่ผิดก็คงไม่หนี ต้องดูตรงนี้ ทุกคนเจตนาดีทั้งหมด คิดว่าไม่มีใครหวังว่าทำเพื่อจะโกง เขามีเป็น 1,000 โครงการ แต่บังเอิญเริ่มแรกมาจากคนที่ทำงานใกล้ชิดสถาบัน นั่นแหละคือปัญหา จึงอยากให้ดูแล้วแยกออกจากกัน เพราะไปใช้ประโยชน์จากตรงนั้น ยอมรับได้หรือไม่ ก็ไม่ได้ ใครเกี่ยวข้องก็ว่ามา"พล.อ.ประยุทธ์ กล่าว

นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ตนเองมีอำนาจในการตัดสินว่าจะดำเนินการอย่างไรหากผลสอบสวนออกมาแล้ว และส่วนตัวยอมรับว่ามีความเป็นห่วง พล.อ.อุดมเดช ในฐานะที่เป็นน้องและเติบโตรับราชการทหารมาด้วยกัน แต่หากผิดก็ต้องรับผิด หากไม่ผิดก็ต้องเดินหน้าทำงานต่อ ซึ่งการเรียกร้องให้แสดงความรับผิดชอบทางการเมืองด้วยการลาออกนั้นคงต้องรอให้ผลสอบออกมาก่อน เพราะตนเองไม่ใช่ศาล แต่จะเป็นคนนำเข้าสู่กระบวนการ เพื่อไม่ให้ประเทศเกิดความวุ่นวายหรือนำมวลชนมาปะทะกันจนเกิดความขัดแย้งอีก

"ในความเป็นส่วนตัวผมก็ต้องห่วง น้องผมนะ แต่ในความรับผิดชอบก็ต้องทำอย่างที่ผมบอก โดยเอาระเบียบ เอากติกาที่ทุกคนรู้อยู่แล้ว ผมโตด้วยกันมา จะผิดจะถูก ซึ่งถ้าผิดก็ต้องยอมรับ ถ้าไม่ผิดก็ต้องโอเค ทำงานไป ก็ไปหาคนผิดมาลงโทษก็เท่านั้น แล้วจะอะไรกันนักหนา ที่บอกว่าต้องรับผิดชอบทางการเมือง ต้องรับผิดชอบตั้งแต่วันนี้หรือ แล้วมันชัดเจนหรือยังว่าผิดตรงไหน รายรับรายจ่าย งบฯต่างๆ การก่อสร้างอะไรก็แล้วแต่ เขาสั่งให้เรียกค่าหัวคิวหรือเปล่า ก็ไม่รู้อีก เป็นที่ไอ้คนนั้นหรือเปล่าที่ไปเรียกค่าหัวคิว ก็ไปสอบมา ไปดูทางข้อกฎหมาย หลายคนก็ให้ไปตรวจสอบกัน ผมก็ไม่รู้ ผมไม่ใช่ศาล แต่เป็นคนนำเข้าสู่กระบวนการ" พล.อ.ประยุทธ์ กล่าว

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ