ส่วนกรณีกลุ่มผู้ชุมนุมรวมตัวเพื่อเคลื่อนไหวไปที่อุทยานราชภักดิ์ จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ จะเข้าข่ายความผิด พ.ร.บ.ชุมนุมในที่สาธารณะ หรือไม่นั้นจะต้องพิจารณาว่ามีจำนวนผู้เข้าร่วมชุมนุมเท่าไหร่ เกินจำนวนที่มีระบุไว้ใน พ.ร.บ.หรือไม่ รวมถึงมีการการแจ้งต่อเจ้าหน้าที่ตำรวจในพื้นที่ภายในเวลา 24 ชั่วโมงก่อนการชุมนุมหรือไม่ อีกทั้งต้องตรวจสอบพฤติกรรมของกลุ่มผู้ชุมนุมดังกล่าวว่าเป็นอย่างไร หากพบว่ามีเจตนาที่เข้าข่ายการกระทำผิดจะต้องถูกดำเนินการตามกฎหมายต่อไป
อย่างไรก็ตาม เจ้าหน้าที่ได้มีการเฝ้าระวังด้านการข่าว และติดตามพฤติกรรมของกลุ่มผู้ชุมนุมแต่ละกลุ่ม ซึ่งขณะนี้ยังไม่พบการเคลื่อนไหวของกลุ่มอื่น โดยสถานการณ์ขณะนี้ยังอยู่ในภาวะปกติไม่ต้องกังวลแต่อย่างใด
ส่วนความคืบหน้าการส่งสำนวนคดีความผิดตามมาตรา 112 นั้น ขณะนี้พนักงานสอบสวนได้ส่งมอบให้กับกองคดี สำนักงานตำรวจแห่งชาติ เพื่อส่งมอบให้กับคณะกรรมการพิจารณาความครบถ้วนของสำนวนอีกครั้งรวม 6 สำนวน ล่าสุดทาง ผบ.ตร. ได้ลงนามอนุมัติสำนวนทั้งหมดส่งฟ้องต่ออัยการแล้ว ส่วนสำนวนที่เหลือทาง ผบ.ตร.ได้กำชับให้เร่งสรุปสำนวนที่มีความสำคัญที่สุดให้แล้วเสร็จโดยเร็ว
ขณะที่การติดตามผู้ต้องหาที่อยู่ระหว่างหลบหนี อาทิ พล.ต.สุชาติ พรหมใหม่ นายทหารทรงคุณวุฒิกองทัพบก นายคชาชาต บุญดี และอดีตนายตำรวจสังกัดกองบัญชาการสอบสวนกลางนั้น ขณะนี้เจ้าหน้าที่อยู่ระหว่างการสืบสวนสอบสวน เพื่อติดตามตัวผู้ต้องหามาดำเนินการกฎหมาย ซึ่งขณะนี้ยังไม่ทราบว่าผู้ต้องหาทั้งสองหลบหนีอยู่ที่ใด และยืนยันว่าไม่มีการช่วยเหลือ หรือปล่อยให้ผู้ต้องหาหลบหนีอย่างแน่นอน