สตง.แจง สปท.จี้ทีโอทีเร่งทวงสิทธิบริหารเสาสัญญาณเอไอเอส-ไล่เช็ครายรับ AOT จาก"คิงพาวเวอร์"

ข่าวการเมือง Wednesday June 1, 2016 17:37 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นายชาญชัย อิสระเสนารักษ์ รองประธานอนุกรรมาธิการวิสามัญศึกษากลไกปราบปรามทุจริต ในคณะกรรมาธิการวิสามัญป้องกันและปราบปรามการทุจริต สภาขับเคลื่อนเพื่อการปฎิรูปประเทศ (สปท.) เผยที่ประชุมอนุกรรมาธิการฯ ได้พิจารณาความคืบหน้ากรณี บมจ.ทีโอที ติดตามทวงคืนอุปกรณ์เสาสัญญานมูลค่า 1.2 แสนล้านบาท จาก บมจ.แอดวานซ์ อินโฟร์ เซอร์วิส (ADVANC) หรือเอไอเอส หลังหมดสัญญาสัมปทานคลื่น 900 เมกะเฮิร์ตซ์ โดยเชิญนายพิศิษฐ์ ลีลาวชิโรภาส ผู้ว่าการตรวจเงินแผ่นดิน (สตง.) มาชี้แจง

ทั้งนี้ ผู้ว่า สตง.เปิดเผยว่า สตง.ได้มีหนังสือลงวันที่ 18 พ.ค.59 ไปถึง บมจ.ทีโอที ให้เร่งตรวจสอบแล้ว พบว่าเอไอเอสไม่ได้มอบกุญแจและไม่อนุญาตให้เจ้าหน้าที่ของทีโอทีเข้าไปยังสถานีเสาสัญญานเพื่อควบคุมการทำงาน ทั้งที่เสาทั้งหมดเป็นทรัพย์สินของรัฐ ทำให้ทีโอทีเสียโอกาสในการบริหารจัดการเสาสัญญานตามสิทธิสัมปทานที่หมดอายุไปแล้วตั้งแต่วันที่ 28 ก.ย.58 โดย สตง.ได้ย้ำให้ทีโอทีเร่งดำเนินการตามกฎหมายโดยเคร่งครัดเพื่อนำทรัพย์สินของรัฐกลับคืนมาโดยด่วนหลังจากเสียโอกาสมาหลายปี

นายชาญชัย กล่าวว่า ผู้ว่า สตง.ยังชี้แจงกรณีบริษัท คิงพาวเวอร์ ไม่ทำตามสัญญาในการรับอนุญาตขายสินค้าปลอดอากร และสัญญาร้านค้าเชิงพาณิชย์ ในพื้นที่ของ บมจ.ท่าอากาศยานไทย (AOT) โดยนายพิศิษฏ์ระบุว่าจะกลับไปตรวจสอบการรับรายได้ของ AOT จากบริษัท คิงพาวเวอร์ว่าจะครบถ้วนสมบูรณ์หรือไม่ อีกทั้งจะสอบทานกับกรมสรรพากร เนื่องจากตามกฎหมาย สตง.สามารถอายัดบัญชีงบดุลการเงินที่เกี่ยวข้องกับเงินรายได้ของแผ่นดินได้ทั้งหมด

อย่างไรก็ตาม สตง.คาดว่าจะมีเงินนอกระบบทั้งในส่วนการเก็บเงินกินเปล่า รวมถึงการเลี่ยงภาษีเป็นเงินจำนวนมาก ซึ่ง สตง.จะตรวจสอบและจะมารายงานกับที่ประชุมอนุ กมธ.ในวันที่ 6 มิ.ย.59 ขณะเดียวกันในส่วนของอนุ กมธ.ฯ ก็จะมีคณะทำงาน เพื่อตรวจสอบข้อมูลที่มีอยู่ เพื่อตรวจทานยอดความเสียหายของรัฐว่าข้อมูลของกรมสรรพากรและ สตง.ตรงกันหรือไม่ อย่างไร และจะสรุปผลเพื่อรายงานให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องดำเนินการตามกฎหมายต่อไป


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ