ป.ป.ท.เผยสถานการณ์ทุจริตรอบ 2 ปีดีขึ้น ตั้งเป้าปรับปรุงกม.เอาผิด-หามาตรการปิดช่องโกง

ข่าวการเมือง Friday September 2, 2016 14:26 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นายประยงค์ ปรียาจิตต์ เลขาธิการคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตในภาครัฐ (ป.ป.ท.) เปิดเผยผลการประชุมคณะกรรมการต่อต้านการทุจริตแห่งชาติ ครั้งที่ 4/2559 ซึ่งมี พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี เป็นประธานว่า ที่ประชุมได้มีการประเมินสถานการณ์การแก้ไขปัญหาทุจริตในรอบ 2 ปีที่ผ่านมา ซึ่งถือว่าประสบผลสำเร็จ โดยสถานการณ์การทุจริตลดน้อยลง กลไกภาครัฐเข้มแข็งขึ้น เน้นการเสริมสร้างกลไกใหม่ไปกระตุ้นกลไกราชการให้อยู่ในกรอบธรรมมาภิบาล ทั้งการใช้มาตรการทางปกครองและทางวินัย แก้ไขปัญหาสำคัญที่อาจนำสู่การทุจริต และเสริมสร้างมาตรการการจัดซื้อจัดจ้าง และความร่วมมือจากทุกภาคส่วน

ทั้งนี้ การดำเนินงานในระยะต่อไปนั้น ได้มีการเสนอต่อที่ประชุมขับเคลื่อนงานใน 2 ด้าน คือ 1.การขับเคลื่อนงานธรรมาภิบาลในภาครัฐให้เป็นรูปธรรม ซึ่งวิธีการหากศูนย์อำนวยการต่อต้านการทุจริตแห่งชาติ (ศอตช.) ได้รับข้อร้องเรียนจากประชาชนหรือจากส่วนราชการ หรือการนำเสนอจากสื่อมวลชน หากพบว่าการดำเนินการของหน่วยงานใดส่งผลกระทบต่อประชาชนหรือส่อว่าทุจริต จะมีการส่งเรื่องให้ ศปท.กระทรวง และให้ส่งต่อไปยังหน่วยงานต้นสังกัดเพื่อให้มีการตรวจสอบภายใน 30 วัน ในกรณีที่หัวหน้าส่วนราชการตรวจสอบแล้วไม่พบการทุจริตก็ให้ยุติเรื่อง แต่กรณีที่พบว่ามีมูลความผิดทางอาญาจะต้องส่งเรื่อง ปปท. และหากเป็นข้าราชการระดับสูงจะต้องส่งเรื่องให้คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ดำเนินการตามกฏหมาย แต่หากเกิดกรณีที่หัวหน้าส่วนราชการละเลยหรือละเว้นการตรวจสอบใน 30 วัน ทาง ปปท.จะดำเนินการตามอำนาจหน้าที่ในการตรวจสอบซ้ำ และทำความเห็นเสนอต่อคณะรัฐมนตรี และส่งเรื่องไปยัง ป.ป.ช.

2.การขับเคลื่อนการป้องกันและปราบปรามทุจริตในภาครัฐ ตั้งเป้าใน 3 แนวทางคือ

1.คนโกงรายเก่าจะต้องหมดไป ด้วยการปรับปรุงแก้ไขกฏหมายเกี่ยวกับการดำเนินคดีทุจริตที่ส่งให้ ป.ป.ช., ปปท., สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (สตง.), สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ป.ป.ง.) สามารถเร่งรัดการดำเนินคดีได้อย่างรวดเร็ว พร้อมทั้งจัดตั้งศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบ ซึ่งเปิดทำการในวันที่ 1 ต.ค.นี้

2.คนโกงรายใหม่ต้องไม่เกิด ด้วยการกำหนดมาตรการป้องกันความเสี่ยงทุกรูปแบบ ทั้ง พ.ร.บ.จัดซื้อจัดจ้าง, พ.ร.บ.อำนวยความสะดวก และคู่มือประชาชน

3.ไม่เปิดโอกาสให้โกงได้ โดยอยากประชาชนช่วยกันเฝ้าระวังและร้องเรียนมายังหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อตรวจสอบต่อไป และ ศอตช.จะร่วมกับสมาพันธ์รัฐวิสาหกิจ เสริมสร้างธรรมาภิบาลในรัฐวิสาหกิจ และเสริมสร้างธรรมาภิบาลใน กทม.ด้วย

สำหรับความคืบหน้าคำสั่งคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) มาตรา 44 ในการระงับการปฏิบัติหน้าที่ของข้าราชการจนถึงขณะนี้มี 237 คน ซึ่งทางต้นสังกัดได้ตรวจสอบเรียบร้อยไปแล้ว 80 คน มีการไล่ออก 8 คน ให้พ้นจากตำแหน่ง 43 คน ส่วนที่เหลืออยู่ระหว่างการรายงานผลการตรวจสอบจากหน่วยงานต้นสังกัด

ด้านนายมานะ นิมิตรมงคล เลขาธิการองค์การต่อต้านคอร์รัปชั่น (ประเทศไทย) กล่าวว่า องค์กรต่อต้านคอร์รัปชัน (ประเทศไทย) เตรียมจัดงานต่อต้านคอร์รัปชันประจำปี 2559 ในวันที่ 11 ก.ย.พร้อมกันทั่วประเทศ ภายใต้แนวคิด "กรรมสนองโกง" พร้อมรณรงค์ให้ประชาชนตื่นตัวด้วยการเป็นพลังพลเมืองตื่นรู้ต่อต้านการโกง โดยจะเชิญชวนประชาชนให้ร่วมกัน "เปิดไฟไล่โกง" เพื่อแสดงเจตนารมณ์ต่อต้านคอร์รัปชัน ซึ่งนายกรัฐมนตรีจะร่วมปาฐกถาพิเศษ ในหัวข้อ "มาตรการจัดการการคอร์รัปชันของประเทศไทยอย่างเป็นรูปธรรม" ด้วย โดยจะมีการจัดงานที่บริเวณท้องสนามหลวง


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ