(เพิ่มเติม) ประธาน สนช.ประกาศจะกราบบังคมทูลอัญเชิญ"สมเด็จพระบรมโอรสาธิราช"ขึ้นทรงราชย์เป็น"สมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ"

ข่าวการเมือง Tuesday November 29, 2016 14:50 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นายพรเพชร วิชิตชลชัย ประธานสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) แจ้งต่อที่ประชุม สนช.วาระพิเศษว่า ตามที่ได้มีประกาศสำนักพระราชวัง เรื่อง พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช มหิตลาธิเบศรามาธิบดี จักรีนฤบดินทร สยามินทราธิราช บรมนาถบพิตร สวรรคต บัดนี้ นายกรัฐมนตรีได้มีหนังสือด่วนที่สุดที่ นร.0503/44549 ลงวันที่ 29 พ.ย.59 เรื่องการสถาปนาแต่งตั้งพระรัชทายาทไว้แล้วตามกฎมณเฑียรบาลว่าด้วยการสืบราชสันตติวงศ์ พ.ศ.2467 โดยแจ้งว่า บัดนี้ราชบัลลังก์ว่างลง และพระมหากษัตริย์ได้ทรงแต่งตั้งสมเด็จพระบรมโอรสาธิราช เจ้าฟ้ามหาวชิราลงกรณ์ สยามมกุฎราชกุมาร เป็นพระรัชทายาทไว้ตามกฎมณเฑียรบาลว่าด้วยการสืบราชสันตติวงศ์ พ.ศ.2467 แล้ว คณะรัฐมนตรีจึงขอแจ้งให้ประธานรัฐสภาทราบ และประธานรัฐสภาเรียกประชุมรัฐสภาเพื่อทราบ และให้ประธานรัฐสภาอัญเชิญองค์พระรัชทายาทขึ้นทรงราชย์เป็นพระมหากษัตริย์สืบไป

"ตามที่ที่ประชุมสภานิติบัญญัติแห่งชาติ ทำหน้าที่รัฐสภา ได้รับทราบการแจ้งมติคณะรัฐมนตรีแล้ว ในขั้นตอนต่อไป ผมจะได้นำความกราบบังคมทูลอัญเชิญ สมเด็จพระบรมโอรสาธิราช เจ้าฟ้ามหาวชิราลงกรณ์ สยามมกุฎราชกุมาร ขึ้นทรงราชย์สืบราชสันตติวงศ์ เป็นสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ของประชาชนชาวไทยสืบไป ตามบทบัญญัติของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย ฉบับชั่วคราว พ.ศ.2557 ประกอบมาตรา 2 ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พ.ศ.2550 มาตรา 23" นายพรเพชร กล่าว

จากนั้น นายพรเพชร ได้ขอให้สมาชิก สนช.ทุกคนลุกขึ้นยืนเพื่อน้อมเกล้าน้อมกระหม่อมถวายพระพรชัยแด่สมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ รัชกาลใหม่ และกล่าวคำถวายพระพระพร้อมกันว่า"ขอพระองค์ทรงพระเจริญ" จากนั้นจึงปิดการประชุม

พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) กล่าวภายหลังการประชุมคณะรัฐมนตรีว่า ในวันนี้มีการประชุมร่วมคณะรัฐมนตรี (ครม.) และคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) เพื่อรับทราบการสถาปนาพระมหากษัตริย์พระองค์ใหม่และได้มีหนังสือแจ้งไปยัง สนช. ซึ่งเป็นไปตามพระราชประเพณีและกฎมณเฑียรบาลถูกต้องครบทุกประการ

ทั้งนี้ หลังจากที่ สนช.ได้ประชุมนัดพิเศษในวันนี้แล้ว ก็จะได้กราบบังคมทูลอัญเชิญองค์พระรัชทายาททรงขึ้นเป็นพระมหากษัตริย์รัชกาลที่ 10 ต่อไป ซึ่งขั้นตอนดังกล่าวเป็นไปตามรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พ.ศ.2550 มาตรา 23 วรรค 1 โดยจะมีการเข้าเฝ้าฯ ในเร็วๆนี้

"ทุกคนร่วมกันทำประวัติศาสตร์ที่สำคัญของประเทศไทยในกระบวนการสำคัญในการอัญเชิญองค์พระรัชทายาทขึ้นสืบราชสันติวงศ์ขึ้นทรงราชย์เป็นพระมหากษัตริย์พระองค์ใหม่ ซึ่งเป็นขั้นตอนที่กำหนดไว้ในรัฐธรรมนูญ สืบเนื่องจากกรณีที่พระราชบัลลังก์ว่างลง และต้องมีการสถาปนาพระมหากษัตริย์พระองค์ใหม่ ซึ่งได้มีการแต่งตั้งองค์พระรัชทายาทไว้ก่อนแล้ว"พล.อ.ประยุทธ์ กล่าว

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ