นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงกรณีที่ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ระบุว่า เงินในบัญชีได้ถูกอายัดและถูกถอนออกจากบัญชีไปแล้วนั้น เงินที่ถูกอายัดไว้นั้นมี 16 บัญชี โดยมี 5 บัญชีรวมแล้วเป็นเงินหลักแสนบาทที่กรมบังคับคดีถอนออกมา ซึ่งเป็นอำนาจตามกฎหมาย แต่ยังไม่ได้ถูกส่งเข้าคลังทันที ทรัพย์ยังอยู่ที่กรมบังคับคดี เนื่องจากเป็นการยึดตามคำสั่งทางคดีปกครอง
อย่างไรก็ตามที่เหลืออีก 11 บัญชีนั้นยังไม่มีการแตะต้องแต่อย่างใด
กรณีที่กรมบังคับคดีอายัดเงินฝากในบัญชีธนาคารของ น.ส.ยิ่งลักษณ์ เกี่ยวโยงกับโครงการจำนำข้าวในหลายส่วน ซึ่งคดีอาญาที่ศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองนัดตัดสินในวันที่ 25 ส.ค.นี้ หากตัดสินว่ามีความผิดจะนำไปสู่การดำเนินคดีแพ่งต่อไป การยึดทรัพย์ที่สื่อถามนายกรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 26 ก.ค.ที่ผ่านมา นายกรัฐมนตรีคงเข้าใจว่าเป็นการยึดทรัพย์ตามคดีที่อยู่ในศาลฎีกาฯ ซึ่งความจริงยังยึดไม่ได้จนกว่าศาลจะมีคำตัดสิน
"ในส่วนของการบังคับคดีทางปกครองที่มีการออกคำสั่งทางปกครองออกไปแล้วนั้น หลายคนถามว่าทำไปถึงไหน จะยึดอะไร อย่างไรบ้างนั้น เป็นคนละส่วนกัน ตรงนี้มีอายุความ 10 ปี ถ้าพบก็ต้องดำเนินการยึดทรัพย์เลย มิฉะนั้นเจ้าหน้าที่จะถือว่าบกพร่อง" นายวิษณุ กล่าว
ทั้งนี้ กระทรวงการคลังในฐานะเจ้าหนี้ได้ตรวจสอบพบทรัพย์สินบางส่วน จึงได้นำทรัพย์สินแยกเป็น 2 ส่วน คือ 1.สังหาริมทรัพย์ ได้แก่ เงินฝากอยู่ในธนาคารต่างๆ จำนวน 10-20 บัญชี ที่จำเป็นต้องอายัดไว้ก่อน ไม่ให้มีการจำหน่ายจ่ายโอน แต่ยังไม่ถูกยึดมาเป็นของหลวง
และ 2.อสังหาริมทรัพย์ คือ ที่ดิน บ้าน คอนโดฯ ตรวจพบว่ามีประมาณ 37 รายการ หน่วยงานเจ้าของเรื่องทราบมูลค่าจำนวนหนึ่ง แต่ขอไม่ระบุตัวเลข กรมบังคับคดีได้ประสานงานกับกรมที่ดินเพื่อขออายัดการทำนิติกรรมทรัพย์นั้นไว้เช่นกัน เพื่อไม่ให้มีการจำหน่าย จ่ายโอน แต่ยังไม่ถูกยึดเข้ารัฐเช่นกัน ยังเป็นกรรมสิทธิ์ของบุคคลนั้นอยู่ เพียงแต่กรมบังคับคดีแจ้งให้กรมที่ดินทราบว่ามีรายการใดบ้างที่ถูกตรวจพบ
นายวิษณุ กล่าวว่า หากศาลฎีกาฯ นักการเมืองตัดสินว่า น.ส.ยิ่งลักษณ์ ไม่มีความผิด จะได้รับเงินที่ถูกกรมบังคับคดีถอนออกไปกลับคืนหรือไม่นั้น เป็นคนละส่วนกันระหว่างคำตัดสินของศาลฎีกาฯ กับคดีแพ่ง ขณะเดียวกัน น.ส.ยิ่งลักษณ์ ได้ไปยื่นขอทุเลาการบังคับคดี ตอนนั้นศาลปกครองไม่รับเรื่องเพราะยังไม่มีการยึดทรัพย์จึงไม่ต้องทุเลา
แต่ขณะนี้ได้เริ่มมีการบังคับคดีแล้ว น.ส.ยิ่งลักษณ์ มีสิทธิไปยื่นขอทุเลาต่อศาลปกครองได้ ซึ่งเป็นผลดีต่อตัวเขาเอง จากนั้นขึ้นอยู่กับศาลปกครองจะทุเลาการบังคับคดีหรือไม่ ถ้าศาลปกครองสั่งทุเลา กรมบังคับคดีก็ต้องหยุดการดำเนินการทั้งหมด แต่ถ้าศาลปกครองสั่งไม่ทุเลากรมบังคับคดีก็ดำเนินการต่อไปได้ตามกฎหมาย
นายวิษณุ กล่าวว่า ได้มีการหารือกันแล้วว่าจะยังไม่ทำอะไรอีกในช่วงนี้จนกว่าศาลฎีกาฯ จะมีคำตัดสินวันที่ 25 ส.ค.นี้ อย่างน้อยการทำเช่นนี้ได้ทำให้รู้ว่าทรัพย์สินทั้งหมดในชื่อของ น.ส.ยิ่งลักษณ์ มีทรัพย์อะไรบ้าง มีมูลค่าเท่าใด ส่วนทรัพย์สินของ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ที่อาจอยู่ในชื่อบุคคลอื่น ทางกรมบังคับคดียังไม่ได้เข้าไปตรวจสอบ ส่วนจะไปดำเนินการตรวจสอบเมื่อใดนั้น ตนเองไม่ทราบ
ส่วนกรณีที่อาจถูกมองว่ากรมบังคับคดีมีเวลาสืบทรัพย์เป็นเวลานาน แต่ทำไมเพิ่งมาสืบพบในช่วงเวลาที่ใกล้จะตัดสินคดี นายวิษณุ กล่าวว่า ไม่ได้เกี่ยวกัน เพราะอยู่ที่ว่ากรมบังคับคดีจะสืบทรัพย์พบเมื่อใด เมื่อสืบพบก็ต้องดำเนินการโดยทันทีตามกฎหมาย ถือเป็นเรื่องปกติ ทั้งนี้กระทรวงการคลังไปแจ้งกรมที่ดิน ธนาคารต่างๆ ไปตั้งแต่ยังไม่รู้ว่าศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองจะนัดวันอ่านคำพิพากษาในวันใด เมื่อออกมาเป็นอย่างนี้ก็ไม่มีปัญหาอะไร
ด้านนายอภิศักดิ์ ตันติวรวงศ์ รมว.คลัง กล่าวว่า ยังไม่ทราบเรื่องดังกล่าว ยังไม่มีการรายงานข้อเท็จจริงใดๆ มาที่ตน เพราะมีการประสานงานกันในระดับปลัดกระทรวงและระดับเจ้าหน้าที่เท่านั้น