นายกฯ ยันไปกัมพูชาไม่มีแผนหารือซื้อไฟฟ้า-ผันน้ำ ปัดข่าวเอื้อประโยชน์เอกชน

ข่าวการเมือง Wednesday September 6, 2017 15:05 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) กล่าวว่า การเดินทางไปเยือนประเทศกัมพูชาอย่างเป็นทางการในวันพรุ่งนี้ (7 ก.ย.) ไม่ได้เตรียมการที่จะหารือกรณีที่กัมพูชาเตรียมดำเนินโครงการโรงไฟฟ้าพลังน้ำสตึงมนัมเพื่อส่งไฟฟ้ามาขายให้ไทย ขณะที่ในช่วงที่ผ่านมาหน่วยงานที่เกี่ยวข้องของทั้งสองประเทศได้มีการหารือกันมาอย่างต่อเนื่อง

ทั้งนี้ การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) ได้ศึกษาด้านเทคนิคในการรับซื้อไฟฟ้าจากโครงการดังกล่าวเมื่อปี 59 และกรมชลประทานมีแผนลงทุนเพื่อผันน้ำจากโครงการดังกล่าวมายังอ่างเก็บน้ำประแสร์จำนวน 300 ล้านลูกบาศก์เมตร/ปี เพื่อรองรับความต้องการใช้น้ำในโครงการพัฒนาระเบียงเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก (EEC)

นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ต้องดูว่าแหล่งน้ำในประเทศ โดยเฉพาะพื้นที่ภาคตะวันออกมีปัญหาหรือไม่ เพื่อจัดสรรปริมาณน้ำให้เพียงพอทั้งภาคอุตสาหกรรมและภาคเกษตร ซึ่งได้สั่งการให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องไปศึกษาว่าจะมีต้นน้ำจากที่ไหนบ้าง มีปริมาณน้ำเพียงพอหรือไม่ รวมถึงแหล่งน้ำในประเทศเพื่อนบ้านหากเราประสบปัญหาภาวะขาดแคลน

"ก็ต้องไปดูว่ามีแผนก่อสร้างอ่างเก็บน้ำ แก้มลิง ระบบส่งน้ำ อยู่ในแผนงาน 5-10 ปีที่วางต่อไปนี้ และเมื่อพูดถึงแหล่งน้ำภายนอกต้องดูว่ามีหรือไม่ และประเทศเพื่อนบ้านมีหรือไม่ และหากเกิดกรณีที่บ้านเราขาดแคลน ก็คุยดูว่าพอจะเอาน้ำจากข้างนอกมาเสริมได้หรือไม่" พล.อ.ประยุทธ์ กล่าว

นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า รัฐบาลนี้ได้หยิบโครงการเดิมมาดูต่อ พบว่ามีหลายเรื่องโดยเฉพาะเรื่องของการสร้างโรงไฟฟ้าขนาดเล็ก 24 เมกะวัตต์ต้องพิจารณาดูว่าจำเป็นหรือไม่ ถ้ามองประโยชน์เพียงด้านเดียวก็พบว่ายังน้อยอยู่ แต่หากได้ประโยชน์ได้น้ำมาด้วยจะดีหรือไม่ ก็ต้องหารือตรงนี้ หากเอาน้ำมาแล้วมีต้นทุนสูงก็มีผลกระทบกับผู้ใช้ ก็ต้องหาแนวทางที่เหมาะสม

"การสร้างโรงไฟฟ้าก็เป็นอีกเรื่องหนึ่ง เป็นเรื่องของการลงทุนบริษัทไทยที่ลงทุนในประเทศกัมพูชา ตามกติกาเขา เป็นเรื่องประกอบการธุรกิจ ผมไม่รู้จักใครทั้งสิ้น ใครที่รู้จักก็ตาม แต่ท้ายที่สุดนายกรัฐมนตรีไม่รู้จัก มันอยู่ที่ผม รู้จักก็ไม่ให้อยู่แล้ว เป็นเรื่องกลไกกติกา" พล.อ.ประยุทธ์ กล่าว

นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า เรื่องนี้ไม่อยากให้ประเด็น เพราะเป็นเรื่องละเอียดอ่อนที่อาจส่งผลกระทบความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ เรื่องอะไรที่เป็นเรื่องที่ต้องหารือก็หารือกันต่อไป โดยไม่ทำให้เกิดประโยชน์กับใครเพียงคนใดคนหนึ่ง เพราะหากนำน้ำมาใช้จริง การลงทุนฝั่งกัมพูชาจะมากขึ้นและทำให้มีค่าใช้จ่ายมากขึ้น ส่วนไฟฟ้าจะซื้ออย่างไรก็ว่ากันอีกที แต่ถ้าจะเอาน้ำ ต้องไปดูว่าเขาจะทำให้ได้หรือไม่ เรารับได้หรือไม่ และเมื่อน้ำเข้ามาแล้ว ต้องมีระบบส่งน้ำภายในประเทศอีก เราก็ต้องทำของเราอยู่แล้ว ซึ่งไม่ใช่ให้บริษัทไปลงทุนได้ค่าก่อสร้าง

สำหรับการประชุมร่วมนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีไทย-กัมพูชาอย่างไม่เป็นทางการในวันพรุ่งนี้ พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า จะมีการหารือในหลายเรื่อง ทั้งเรื่องการสัญจรข้ามแดน ค้ามนุษย์ แรงงาน เศรษฐกิจ สังคม การเกษตร เน้นถึงความร่วมมือระหว่างประเทศ และไม่ทำให้ประเทศเสียหาย และไม่ควรนำเรื่องนี้มาเป็นประเด็น


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ