รมว.เกษตรฯ สั่งงานผ่านแอพพลิเคชั่นไลน์ให้ ขรก.ในสังกัดเร่งทำงานเพื่อเกษตรกร

ข่าวการเมือง Monday December 11, 2017 13:11 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นายกฤษฎา บุญราช รมว.เกษตรและสหกรณ์ ส่งข้อความผ่านแอพพลิเคชั่นไลน์ถึงผู้บริหารและข้าราชการในสังกัด เพื่อขอให้เร่งทำงานเพื่อแก้ปัญหาราคายางพาราตกต่ำด้วยการลดพื้นที่เพาะปลูก ปลูกพืชชนิดอื่นแซมต้นยาง จัดหาแหล่งน้ำให้เพียงพอ ตลอดจนปรับเปลี่ยนไปประกอบอาชีพอื่นๆ

"ในช่วงวันหยุดนี้ ผมขอมีส่วนร่วมในการเสนอแนวคิดการทำงานเพื่อดูแลช่วยเหลือเกษตรกรไทยของเรา" นายกฤษฎา บุญราช รมว.เกษตรและสหกรณ์ ระบุ

รมว.เกษตรและสหกรณ์ กล่าวว่า ในช่วงนี้นอกจากสินค้าผลผลิตทางการเกษตรที่กำลังเป็นที่สนใจของคนทั่วประเทศ เช่น ยางพารา ข้าว พืชเกษตร และผลไม้ต่างๆ แล้ว สิ่งที่เป็นรากฐานสำคัญของการเกษตรบ้านเราคือ การจัดหาหรือพัฒนาแหล่งน้ำหรือการหาน้ำให้มีประจำพื้นที่แก่เกษตรกร คนไทยเราผูกพันกับแหล่งน้ำมาโดยตลอด จนมีคำกล่าวที่ว่าในน้ำมีปลาในนามีข้าว

"ขอให้ท่านอธิบดีกรมพัฒนาที่ดินได้พิจารณารวบรวมข้อมูลแหล่งน้ำขนาดเล็ก เช่น บ่อหรือสระที่กรมฯ ได้ไปดำเนินการไว้ในพื้นที่ต่างๆ ว่า ครอบคลุมพื้นที่เกษตรกรรมหรือที่อยู่อาศัยของประชาชนมากน้อยเพียงใด ที่ไหนบ้าง โดยแยกเป็นรายจังหวัดหรือรายภาคคร่าวๆก็ได้ เพื่อให้เห็นภาพว่าพื้นที่ใดมีแหล่งน้ำเพียงพอแล้วหรือไม่ อย่างไร" นายกฤษฎา ระบุ

ขณะนี้กระทรวงเกษตรและสหกรณ์และการยางแห่งประเทศไทย (กยท.) มีนโยบายให้ชาวสวนยางลดพื้นที่ปลูกยางหรือปลูกพืชอื่นๆแซมสวนยางหรือปรับเปลี่ยนไปประกอบอาชีพอื่นๆ ซึ่งเป็นนโยบายที่นายกรัฐมนตรีได้สั่งการไว้แล้ว

"ในพื้นที่สวนยางหรือใกล้เคียงนั้น หากไม่มีแหล่งน้ำแล้ว ชาวสวนก็ไม่ทราบจะไปปลูกพืชอะไรหรือทำอะไรที่ดีกว่าปลูกยาง แต่ถ้าเราสามารถหาแหล่งน้ำหรือหาทางพัฒนาพื้นที่ให้มีแหล่งน้ำไว้ด้วยก็จะทำให้เกษตรกรมีทางออกหรือทางเลือกในการทำการเกษตรที่ผสมผสาน หลากหลายได้มากขึ้นกว่าเดิม และจะช่วยให้นโยบายลดพื้นที่ปลูกยางพาราประสบความสำเร็จมากขึ้น ซึ่งจำเป็นต้องทำให้เกิดเป็นรูปธรรมโดยเร็วตามสภาพของพื้นที่และเทคโนโลยีที่เอื้ออำนวย เพราะจะเป็นการช่วยถ่ายทอดตัวอย่างที่ดีและสร้างความมั่นใจให้พี่น้องเกษตรกรของเรา" นายกฤษฎา ระบุ

รมว.เกษตรและสหกรณ์ กล่าวว่า หากข้าราชการคนใดที่มีความรู้หรือเชี่ยวชาญการพัฒนาจัดหาแหล่งน้ำในสวนยางหรือพื้นที่ใกล้เคียงได้ก็ขอให้ช่วยเสนอแนะกรมพัฒนาที่ดินหรือเจ้าหน้าที่ของกระทรวงฯ ที่อยู่ในพื้นที่ด้วย หรือหากใครมีความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับการพัฒนาหาแหล่งน้ำตามพระราชดำริของ ร.9 เช่น การทำหลุมขนมครกหรือแก้มลิงเก็บน้ำ/การชักน้ำลงคลองไส้ไก่หรือการสร้างเหมืองฝายชะลอน้ำหรือเก็บน้ำโดยใช้วัสดุธรรมชาติในพื้นที่มาทำแหล่งน้ำดังกล่าว โดยให้ชาวบ้านหรือชาวสวนยางได้ออกแรงงานแล้วส่วนราชการซื้อวัสดุให้ชาวบ้านมาร่วมกันทำก็ได้ หรือในบางแห่งอาจร่วมกับองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นทำธนาคารน้ำใต้ดินได้

"ผมทราบว่าเรื่องการพัฒนาแหล่งน้ำ ท่าน รมช.วิวัฒน์ฯ มีความเชี่ยวชาญอยู่แล้ว ก็ขอให้ท่านอธิบดีกรม พด.และกรม ชป.รวมทั้งพวกเราได้ปรึกษาท่านและร่วมกันดำเนินการทันทีได้เลยครับ" นายกฤษฎา กล่าว

สำหรับงบประมาณดำเนินการนั้น หากมีงบประมาณประจำปีตามแผนงานอยู่แล้วก็ให้รีบดำเนินการหรือขอรับการสนับสนุนจากงบประมาณพัฒนาจังหวัดหรือองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นหรือต่อยอดขยายผลโครงการ 9101 หรือประสานงานภาคธุรกิจเอกชนในพื้นที่ที่มีงบประมาณดูแลสังคม (CSR) หรือทำโครงการขอรับการสนับสนุนงบประมาณกลางสำรองจ่ายมาที่กระทรวงก็ได้

ปัจจุบันมีเกษตรกรบางพื้นที่ได้รวมตัวกันในรูปกลุ่มเกษตรกรตามลักษณะอาชีพหรือจัดตั้งเป็นสหกรณ์การเกษตรหรือการจัดตั้งวิสาหกิจชุมชนอย่างได้ผลดีซึ่งกลุ่มเกษตรกรเหล่านี้จะมีความเข้มแข็งกว่าเกษตรกรรายบุคคลทั่วไป บางกลุ่มสามารถบริหารงานดูแลสมาชิกในกลุ่มได้ดี มีการใช้ความรู้ทางด้านการทำธุรกิจหรือเทคโนโลยีเข้ามาใช้ในการพัฒนาอาชีพการเกษตร ทำให้มีรายได้ครัวเรือนมากขึ้นเพียงพอต่อค่าใช้จ่ายหรือค่าครองชีพ

"ขอให้พวกเราที่อยู่ในพื้นที่ได้ช่วยสนับสนุนกลุ่มเกษตรกรเหล่านั้นให้เป็นต้นแบบหรือขอมาเป็นวิทยากรขยายผลการรวมกลุ่มในพื้นที่ให้มากๆขึ้นด้วย ซึ่งกิจการในแนวสหกรณ์ก็เป็นแนวพระราชดำริประการหนึ่งของในหลวง ร.9 ต่อไป" นายกฤษฎา กล่าว

รมว.เกษตรและสหกรณ์ กล่าวว่า จะพยายามจัดสรรงบประมาณให้เกษตรกรที่สามารถรวมตัวเป็นกลุ่มที่เข้มแข็งแล้วได้มีงบประมาณหรือปัจจัยการผลิตด้านการเกษตรประจำกลุ่มเป็นกรณีพิเศษด้วย ขอให้ปลัด กษ.ได้มอบหมายรองปลัดกระทรวงและอธิบดีที่เกี่ยวข้องได้เร่งจัดทำข้อมูล (big data) กลุ่มเกษตรกรดังกล่าวไว้ให้เป็นระบบ เพื่อให้เชื่อมโยงกับข้อมูลอื่นๆ ตามกรม กอง ของกษ.หรือให้กระทรวงอื่นๆ นำไปจัดทำโครงการประสานเชื่อมโยงเพื่อนำไปใช้ประโยชน์ได้กว้างขวางมากขึ้นด้วย

รมว.เกษตรและสหกรณ์ กล่าวว่า ต่อไปนี้ข้าราชการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ที่อยู่ในพื้นที่จังหวัด/อำเภอและตำบลหมู่บ้านจะต้องร่วมกันทำงานในพื้นที่เดียวกันตามความเชี่ยวชาญของแต่ละคน ไม่แยกส่วน ไม่แยกกรมกอง แต่ทุกคนจะมีเป้าหมายเดียวกันคือการทำงานเพื่อช่วยเหลือเกษตรกรแบบครบวงจร หากผู้ที่อยู่ในพื้นที่ต่างๆ ทั่วประเทศมีปัญหาอุปสรรคในการทำงานหรือมีข้อเสนอแนะหรือมีโครงการที่ประสบผลสำเร็จในการดำเนินงานแล้วก็ขอให้รายงานมายัง กษ.ด้วยเพื่อส่วนกลางจะได้นำมาขยายผลหรือปรับปรุงแก้ไขให้งาน กษ.ให้เป็นประโยชน์ต่อเกษตรกรให้มากที่สุด


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ