ทนาย"ยิ่งลักษณ์"ยื่นศาลปกครองขอคุ้มครอง งด-ชะลอขายทอดตลาดทรัพย์สินเหตุคดียังไม่ถึงที่สุด

ข่าวการเมือง Thursday February 8, 2018 17:41 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นายนพดลลาวทอง ทนายความของ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ได้เดินทางไปยื่นคำร้องขอทุเลาการบังคับคดีใหม่อีกครั้ง โดยขอให้ศาลมีคำสั่งให้กรมบังคับคดีงดหรือชะลอการขายทอดตลาดทรัพย์สินของน.ส.ยิ่งลักษณ์เป็นการชั่วคราวจนกว่าจะมีคำพิพากษาถึงที่สุด

นายนพดล กล่าวว่า การยื่นคำร้องขอฉบับใหม่นี้เป็นการใช้สิทธิตามปกติ ซึ่งกฎหมายให้สิทธิไว้ เพราะคดีที่กระทรวงการคลังได้สั่งให้น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชดใช้ค่าสินไหมทดแทนในโครงการรับจำนำข้าวเป็นเงินจำนวนมากถึง 3.5 หมื่นล้านบาทเศษนั้น เป็นการออกคำสั่งเรียกให้รับผิดโดยยังไม่ได้ผ่านกระบวนการพิสูจน์ความผิดโดยศาล แต่เป็นการใช้อำนาจของฝ่ายรัฐ

อีกทั้ง พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ยังได้ใช้อำนาจหัวหน้า คสช. ออกคำสั่งตามมาตรา 44 ให้กรมบังคับคดี เข้าดำเนินการยึดอายัดทรัพย์สินของ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ซึ่งเป็นเรื่องที่ผิดปกติ เพราะในคดีอื่นๆ เมื่อฝ่ายบริหารใช้อำนาจรัฐออกคำสั่งเรียกให้ชดใช้แล้ว ก็จะมีการฟ้องคดีต่อศาลปกครอง ทุกฝ่ายก็จะรอผลแห่งคำพิพากษา เมื่อเป็นที่ยุติอย่างไรจึงจะดำเนินการต่อไป เช่น ศาลพิพากษาให้ต้องรับผิดก็จะมีการยึดอายัดทรัพย์สินนำไปขายทอดตลาดเพื่อนำเงินที่ได้มาชดใช้ต่อไป แต่คดีนี้ กลับเลือกปฏิบัติโดยมีการกระทำการยึดเงินสดและอายัดทรัพย์สินไปก่อนที่จะมีคำพิพากษาถึงที่สุด

ที่ผานมา น.ส.ยิ่งลักษณ์ จึงได้ใช้สิทธิตามกฎหมายยื่นคำร้องขอต่อศาลปกครองให้คุ้มครองเป็นการชั่วคราวด้วยการเพิกถอนการยึดอายัดทรัพย์สินไปโดยกรมบังคับคดี ซึ่งมีถึง 37 รายการ โดยอาศัยคำสั่งหัวหน้า คสช. ตามาตรา 44 ดังกล่าว ซึ่งต่อมาศาลสั่งยกคำร้อง

การยื่นคำร้องใหม่ครั้งนี้ได้แสดงข้อเท็จจริงและข้อกฎหมายให้ศาลเห็นว่า กรณีได้เข้าเงื่อนไขทั้ง 3 ประการ ตามข้อ 72 วรรคสาม แห่งระเบียบของที่ประชุมใหญ่ตุลาการ ในศาลปกครองสูงสุด ว่าด้วยวิธีพิจารณาคดีปกครอง พ.ศ.2543 แล้ว ที่ศาลจะสั่งทุเลาการบังคับฯ คือการคุ้มครองแก่ผู้ฟ้องคดีเป็นการชั่วคราว เงื่อนไขดังกล่าวคือ

ประการแรก คำสั่งทางปกครอง ที่เรียกให้ น.ส.ยิ่งลักษณ์ชดใช้ความเสียหายนั้นน่าจะไม่ชอบด้วยกฎหมาย เพราะศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองพิพากษาแล้วว่า น.ส.ยิ่งลักษณ์ไม่ได้กระทำผิดในส่วนของการดำเนินนโยบายจำนำข้าว เพราะได้ใช้ความระมัดระวังและมีมาตรการป้องกันอย่างดีแล้ว แต่เป็นความบกพร่องของเจ้าหน้าที่ฝ่ายปฏิบัติ โดยคำสั่งที่เรียกให้ชดใช้ในคดีนี้นั้นอ้างความบกพร่องให้รับผิดในเรื่องจำนำข้าวเพียงอย่างเดียว ทำให้การคิดคำนวณค่าเสียหายที่เรียกให้ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชดใช้ เป็นการดำเนินการโดยไม่ชอบด้วยกฎหมาย

ประการที่ 2 หากให้คำสั่งทางปกครองมีผลบังคับต่อไป จะทำให้เกิดความเสียหายอย่างร้ายแรงจนยากแก่การแก้ไขเยียวยาในภายหลัง เพราะขณะนี้กรมบังคับคดีกำลังเตรียมการขายทอดตลาดกับทรัพย์สินที่ได้ยึดอายัดไป โดยเฉพาะบ้านพักอาศัยพร้อมที่ดินซึ่งมีบุตรและสามีกับเครือญาติพักอาศัยอยู่ หากขายทอดตลาดไปแล้ว หากภายหลังศาลพิพากษาว่า น.ส.ยิ่งลักษณ์ไม่ได้กระทำผิด ก็ไม่อาจเรียกคืนบ้านพักพร้อมที่ดินซึ่งขายทอดตลาดไปแล้วได้ อันเป็นความเสียหายทั้งต่อตัวทรัพย์สินและความเสียหายทางจิตใจของ น.ส.ยิ่งลักษณ์ บุตร สามี และผู้คนในครอบครัวเป็นอย่างยิ่ง ซึ่งทรัพย์สินดังกล่าว น.ส.ยิ่งลักษณ์ได้ทำมาหากินมาโดยสุจริตตลอดชั่วอายุ โดยเฉพาะเป็นบ้านเกิดของบุตร ที่เจริญเติบโตมาจากบ้านหลังที่แม่กับพ่อได้ช่วยกันสร้างขึ้นมาจนปัจจุบัน

และประการสุดท้าย การที่ศาลจะได้สั่งให้งดหรือชะลอการขายทอดตลาดทรัพย์สินของ น.ส.ยิ่งลักษณ์ไว้ก่อน จนกว่าจะได้มีคำพิพากษาถึงที่สุดว่า น.ส.ยิ่งลักษณ์กระทำผิดจริงหรือไม่นั้น จะไม่เป็นอุปสรรคแก่การบริหารงานของรัฐหรือแก่การบริการสาธารณะแต่อย่างใด


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ