(เพิ่มเติม) ประธาน กรธ.หารือเสนอแนะ สนช.ส่งศาลรธน.ตีความกม.ลูก ส.ส.-ส.ว.ให้ชัดหวั่นเกิดปัญหาตามมา

ข่าวการเมือง Tuesday March 13, 2018 18:10 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นายมีชัย ฤชุพันธุ์ ประธานคณะกรรมการร่างรัฐธรรมนูญ (กรธ.) กล่าวว่า ในวันนี้ กรธ.จะหารือและทำความเห็นเกี่ยวกับร่างพ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการเลือกตั้ง ส.ส. และร่างพ.ร.บ.การได้มาซึ่ง ส.ว. ตามที่สภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) ปรับแก้เพื่อส่งให้ประธาน สนช.เพื่อพิจารณาภายในวันพรุ่งนี้ เนื่องจากเห็นว่ายังมีหลายประเด็นที่อาจเข้าข่ายขัดกับรัฐธรรมนูญ ดังนั้น จึงอยากให้ สนช.ส่งตีความร่างพ.ร.บ.ดังกล่าวเพื่อให้เกิดความชัดเจน

เนื่องจากมองว่าหากมีการประกาศใช้เป็นกฎหมายแล้วมีคนร้องและศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยว่าไม่ชอบรัฐธรรมนูญจะเกิดปัญหาตามมามากมาย โดยเฉพาะหากมีการเลือกตั้งไปแล้วจะทำให้ล้มทั้งกระบวนการต้องนับหนึ่งใหม่ จะทำให้กระบวนการต่างๆ ช้าและหยุดชะงักลง แต่หากวินิจฉัยตอนนี้ก็ยังสามารถอยู่ในกรอบโรดแมพเลือกตั้ง

ทั้งนี้ นายมีชัย เห็นว่า ร่างกฎหมายลูก ส.ส.อาจมี 2 ประเด็นที่เข้าข่ายขัดรัฐธรรมนูญ คือ เรื่องการตัดสิทธิผู้ไม่ไปใช้สิทธิเลือกตั้ง ห้ามดำรงตำแหน่งข้าราชการการเมือง ผู้บริหารท้องถิ่น กำนัน และผู้ใหญ่บ้าน ซึ่งเกิดข้อสงสัยว่าเป็นการตัดสิทธิหรือตัดเสรีภาพ ซึ่งหากเป็นเรื่องเสรีภาพก็ไม่น่าจะทำได้

และประเด็นที่ให้ผู้อื่นลงคะแนนเสียงแทนผู้พิการได้ ซึ่งเดิมก รธ.กังวลเรื่องนี้ จึงเขียนว่าให้เจ้าหน้าที่ช่วยเหลือเพื่อให้ผู้พิการลงคะแนนด้วยตนเอง แต่ สนช.ปรับแก้ไขใหม่กำหนดให้เจ้าหน้าที่ลงคะแนนแทนได้ และถือว่าเป็นการลงคะแนนโดยตรงและลับ ซึ่งการเขียนไว้เช่นนี้จะขัดกับรัฐธรรมนูญหรือไม่ต้องเขียนให้ชัด เพราะความจริงผู้ที่จะลงคะแนนต้องอยู่ในภาวะที่ลงคะแนนได้ หากขัดข้องก็ให้เจ้าหน้าที่ช่วยเหลือได้

ขณะที่ร่างกฎหมายลูกเกี่ยวกับการเลือกตั้ง ส.ว.นั้น มีความกังวลเรื่องการแบ่งประเภทการสมัครและการเลือกที่แยกเป็น 2 ประเภท คือ อิสระ และโดยองค์กร ซึ่งจะเป็นการแยกแต่ละกลุ่มออกเป็น 2 พวก ซึ่งรัฐธรรมนูญกำหนดให้ในแต่ละกลุ่มเลือกกันเอง การแยกแบบนี้จึงไม่ใช่การเลือกกันเอง อาจจะขัดกับรัฐธรรมนูญ เพราะเท่ากับว่าให้องค์กรเลือกก่อนแล้วจึงจะเลือกกันเอง

นายพรเพชร วิชิตชลชัย ประธานสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) เปิดเผยว่า ได้ชะลอการยื่นร่างกฎหมายลูก 2 ฉบับสุดท้ายให้นายกรัฐมนตรีในวันพรุ่งนี้ (14 มี.ค.) เพื่อนำขึ้นทูลเกล้าฯ หลังจากประธาน กรธ.แจ้งข้อห่วงใยเพื่อให้สมาชิกได้ทบทวนว่าจะส่งร่างกฎหมายลูกทั้ง 2 ฉบับให้ศาลรัฐธรรมนูญตีความหรือไม่ ทั้งนี้ เพื่อให้เกิดความชัดเจน

ทั้งนี้ ในขั้นตอนการพิจารณาของกรรมาธิการร่วม 3 ฝ่าย ตัวแทนจาก กรธ.ก็ไม่ได้ยืนยันหนักแน่นว่าอาจเกิดปัญหา จึงทำให้การพิจารณาผ่านไปโดยไร้ข้อกังวล แต่เมื่อมาถึงเวลานี้ทางออกเดียวของการแก้ไขปัญหาการตีความไม่ตรงกัน คือ การยื่นให้ศาลรัฐธรรมนูญตีความ ซึ่งขึ้นอยู่กับดุลยพินิจของสมาชิก สนช.ว่าจะยื่นหรือไม่

แต่ส่วนตัวมองว่า หากยื่นให้ศาลตีความร่างกฎหมายลูกว่าด้วยการเลือกตั้ง ส.ส.ก็จะกระทบต่อโรดแมพเลือกตั้งแน่นอน เพราะต้องรอคำวินิจฉัยจากศาลรัฐธรรมนูญก่อนจะยื่นร่างกฎหมายให้นายกรัฐมนตรีได้ ซึ่งในวันที่ 15 มี.ค.จะทราบแล้วว่าสมาชิกจะเข้าชื่อให้ศาลตีความหรือไม่ โดยไม่ได้กำหนดว่าผู้ยื่นจะต้องลงมติไว้อย่างไร หรือเข้าร่วมประชุม สนช.ในวันดังกล่าวหรือไม่

นายพรเพชร ยังระบุด้วยว่า หากศาลรัฐธรรมนูญตีความว่าประเด็นที่สมาชิกยื่นไปขัดต่อรัฐธรรมนูญ ตามกระบวนการแล้ว กรธ.จะต้องเป็นฝ่ายปรับแก้ แต่หาก กรธ.ยืนยันจะไม่แก้ ก็ต้องเป็นหน้าที่ สนช. แต่หากกฎหมายมีผลบังคับใช้ไปแล้ว จะทำให้ กรธ.พ้นจากหน้าที่ไป รัฐบาลก็จะต้องหาผู้แก้ไขกฎหมายขึ้นมาใหม่ตามช่องทางของรัฐธรรมนูญที่กำหนดไว้

และยังมีความกังวลในทางปฏิบัติในกรณีที่บางองค์กรมีทุกจังหวัดซึ่งจะสามารถส่งตัวแทนเข้ามาได้ ก็จะทำให้มีตัวแทนแต่ละองค์กรเข้ามาเป็นจำนวนมาก และอาจทำให้เกิดการทุจริตได้ง่าย

ดังนั้น นายมีชัย เห็นว่า ควรให้ศาลชี้ให้ชัดก่อนจะเดินหน้า เพราะหากประกาศใช้เป็นกฎหมายครบแล้ว กรธ.ก็ต้องพ้นจากหน้าที่ และเมื่อถึงวันนั้นก็ต้องหาคนมายกร่างใหม่ และต้องใช้เวลาในการปรับแก้เนื่องจากแต่ละมาตราผูกโยงกัน


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ