นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี ฝ่ายกฎหมาย ปาฐกถาพิเศษ เรื่อง "ศาลรัฐธรรมนูญ : ผู้พิทักษ์หลักนิติธรรม" ว่า หลักนิติธรรมถือเป็นหลักใหญ่ที่ถูกบัญญัติไว้ในรัฐธรรมนูญ และเป็นมาตรฐานเดียวกันที่ใช้หลักนิติธรรมในต่างประเทศ ซึ่งในขณะนี้ศาลรัฐธรรมนูญถือเป็นผู้พิทักษ์รัฐธรรมนูญที่ชัดเจนที่สุดแล้ว เนื่องจากศาลรัฐธรรมนูญทำหน้าที่ใน 2 เรื่อง คือ การควบคุมกฏหมายไม่ให้ขัดต่อรัฐธรรมนูญ และคุ้มครองสิทธิเสรีภาพของประชาชน โดยมีเครื่องมือที่สำคัญ คือ รัฐธรรมนูญ กฏหมาย และหลักนิติธรรม
นายวิษณุ กล่าวว่า การทำหน้าที่ของศาลรัฐธรรมนูญตลอดระยะเวลา 20 ปีที่ผ่านมาอาจจะไม่ราบรื่นนัก เพราะศาลรัฐธรรมนูญไม่ใช่องค์กรทางการเมืองและประสบปัญหามีเสียงวิพากษ์วิจารณ์ในการทำหน้าที่ โดยได้ฝากให้ศาลรัฐธรรมนูญทำหน้าที่ด้วยความเข้มแข็ง อดทน และให้นำข้อวิพากษ์วิจารณ์มาปรับปรุงแก้ไข แต่เชื่อมั่นว่าหลังจากนี้ ศาลรัฐธรรมนูญจะเป็นองค์กรที่มั่นคง ยั่งยืน และเป็นสถาบันหนึ่งของประเทศ
นายนุรักษ์ มาประณีต ประธานศาลรัฐธรรมนูญ กล่าวปาฐกถาเนื่องในวาระศาลรัฐธรรมนูญครบรอบ 20 ปี หัวข้อ "ศาลรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทยภายใต้หลักนิติธรรม"ว่า หลักนิติธรรมมีอยู่ 2 ข้อ คือ 1.ต้องมีกฎหมายที่เป็นธรรม 2.ต้องมีคนดีมาบังคับใช้กฎหมาย หลักนิติธรรมจึงจะเดินไปได้ ซึ่งปัญหาของทั่วโลกคือ ทุกประเทศมีหลักกฎหมายที่ดีหมด แต่บุคคลที่มาบังคับใช้กฎหมายที่เป็นปัญหา เพราะหากบังคับใช้กฎหมายอย่างไม่เป็นธรรมแล้ว หลักนิติธรรมย่อมมีปัญหาได้ ดังนั้นปัญหาใดก็แล้วแต่ในโลกนี้ล้วนเกิดจากบุคคลทั้งนั้น
ทั้งนี้ ที่ผ่านมาศาลรัฐธรรมนูญมีอำนาจหน้าที่ในการตรวจสอบการทำหน้าที่ของสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) ว่ามีการออกกฎหมายขัดกับรัฐธรรมนูญหรือไม่ และเมื่อมีการบัญญัติเรื่องหลักนิติธรรมขึ้นมา ซึ่งเป็นหลักที่มีคุณค่าและเป็นไปเพื่อประโยชน์ส่วนรวมของประเทศชาติ และความสุขของประชาชน หลักนิติธรรมจึงอยู่เหนือบทบัญญัติที่เป็นลายลักษณ์อักษรที่แม้จะมีบทบัญญัติที่เป็นลายลักษณ์อักษรก็ต้องคำนึงถึงหลักนิติธรรมด้วย เช่น แม้การแก้ไขรัฐธรรมนูญจะแก้ไขได้ด้วยเสียงข้างมาก แต่กระบวนการต้องเป็นไปตามหลักนิติธรรมที่ต้องรับฟัง และคำนึงถึงเสียงข้างน้อยด้วย เป็นต้น