นายเรืองไกร ลีกิจวัฒนะ ส.ว.สรรหา เตรียมเสนอประธานวุฒิสภาวันพรุ่งนี้(16 ก.ย.)ขอเลื่อนการพิจารณาร่าง พ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายประจำปี พ.ศ.2552 ออกไปจนกว่าจะมีคณะรัฐมนตรีชุดใหม่ และให้มีการแถลงนโยบายบริหารราชการแผ่นดินต่อสภาแล้ว ทั้งนี้เพื่อความเหมาะสมทั้งเรื่องของการดำเนินการตามนโยบายของรัฐบาลชุดใหม่ และให้สอดคล้องกับสถานการณ์ทางเศรษฐกิจและสังคม ที่เปลี่ยนแปลงไป
"ผมต้องการให้ครม.ใหม่มาทบทวน การจัดทำงบประมาณปี 2552 เพื่อประเมินผลกระทบช่วงที่ผ่านมา ทั้งเรื่องเศรษฐกิจที่จีดีพีเปลี่ยนไป หลังเกิดเหตุการณ์ต่างๆ ก็ต้องมีการปรับประมาณการรายรับกันใหม่ และก่อนหน้านี้รัฐบาลคุณสมัคร ที่ออก 6 มาตรการ 6เดือน ก็ไม่ได้ได้นำผลกระทบเรื่องรายได้มารวมในงบประมาณใหม่ด้วย
อีกทั้งเห็นว่าเมื่อเปลี่ยนรัฐบาลใหม่ การจัดทำงบประมาณก็ต้องเปลี่ยน เพื่อไม่ให้เป็นข้ออ้างของรัฐบาลใหม่ หากมีการดำเนินโยบายผิดพลาด และต้องรอดูด้วยว่า การแถลงนโยบายจะเปลี่ยนไปจากนโยบาย 8 ข้อของรัฐบาลเก่าหรือไม่"นายเรืองไกร กล่าวฏํฐ"อินโฟเควสท์"
ทั้งนี้ นายเรืองไกร เชื่อว่า การเลื่อนการพิจารณา ร่าง พ.ร.บ.งบประมาณฯ ในขั้นของวุฒิสภา เพื่อรอคณะรัฐมนตรีชุดใหม่จะใช้เวลาไม่น่าเกิน 1 เดือน หรืออย่างช้า 2 เดือน เพราะเชื่อว่าพรรคพลังประชาชนและพรรคร่วมรัฐบาลมีความพร้อมในการจัดตั้งรัฐบาลใหม่อยู่แล้ว และจะไม่กระทบต่อการเบิกจ่ายงบเงินงบประมาณมากนัก จึงควรดำเนินการเพื่อให้เกิดความรอบคอบ รัดกุม
อย่างไรก็ตาม นายเรืองไกร กล่าวว่า จะได้นำแนวคิดการเลื่อนการพิจารณา ร่าง พ.ร.บ.งบประมาณฯ หารือกับ สมาชิกวุฒิสภา ส่วนจะเห็นด้วยหรือไม่ ถือเป็นสิทธิของแต่ละบุคคล
ทั้งนี้ ก่อนหน้านี้ นายสมชัย สัจจพงษ์ ที่ปรึกษาด้านเศรษฐกิจการคลัง สำนักงานเศรษฐกิจการคลัง กล่าวว่า หากร่าง พ.ร.บ.งบประมาณฯ ต้องล่าช้าไปจากกำหนดเดิมที่ต้องเริ่มเบิกจ่าย เดือน ต.ค. คงจะไม่ส่งผลกระทบทางเศรษฐกิจอย่างรุนแรงมากนัก เนื่องจากรัฐบาลยังสามารถเบิกจ่ายงบประจำได้เช่นเดิม เพียงแต่ยังไม่สามารถเบิกจ่ายงบลงทุนใหม่ได้จนกว่ากฎหมายจะมีผลบังคับใช้
--อินโฟเควสท์ โดย จารุวรรณ ไหมทอง/ศศิธร โทร.0-2253-5050 ต่อ 345 อีเมล์: sasithorn@infoquest.co.th--