ปธน.จีนให้คำมั่นในที่ประชุมยูเอ็นจะลดปริมาณการปล่อยก๊าซเรือนกระจก

ข่าวต่างประเทศ Wednesday September 23, 2009 11:54 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

จีนได้ให้คำมั่นเป็นครั้งแรกจะลดปริมาณการปล่อยก๊าซเรือนกระจกที่ได้สัดส่วนกับการขยายตัวทางเศรษฐกิจ เพื่อมีส่วนร่วมในการแก้ปัญหาโลกร้อน โดยประธานาธิบดีหู จิ่นเทา ของจีน ได้กล่าวในที่ประชุมองค์การสหประชาชาติเรื่องการเปลี่ยนแปลงของสภาพอากาศที่นิวยอร์กว่า จีนจะลดความหนาแน่นของโรงงานและโรงไฟฟ้าต่างๆในประเทศลง แต่ไม่ได้มีการระบุถึงเรื่องจำนวนหรือตัวเลขเป้าหมายที่แน่นอน ส่งผลให้เกิดเสียงวิจารณ์ตามมาว่า แนวคิดดังกล่าวไม่มีรายละเอียดมากพอ

เอเลียต ไดริงเกอร์ เจ้าหน้าที่ด้านยุทธศาสตร์ต่างประเทศของ Pew Center on Global Climate Change กล่าวว่า หากพิจารณาตามแนวคิดดังกล่าวแล้ว เรียกได้ว่าเป็นความคืบหน้าครั้งสำคัญ แต่ก็ยังมีคำถามตามมาว่าเป้าหมายที่จีนจะกำหนดขึ้นมานั้นจะมากน้อยเพียงใด และประเทศที่เข้าประชุมจะเต็มใจที่จะปฏิบัติตามหรือไม่

บลูมเบิร์กรายงานว่า ประธานาธิบดีจีนกล่าวต่อไปว่า จีนจะตั้งเป้าการปล่อยก๊าซเรือนกระจกในทุกๆหน่วยของผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ และจีนจะพยายามลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดอ็อกไซด์ต่อหน่วย GDP ให้ได้มากภายในปี 2563 จากระดับ 2548

อย่างไรก็ดี ผู้นำจีนไม่ได้ให้คำมั่นว่าจะนำนโยบายดังกล่าวบรรจุไว้ในสนธิสัญญาด้านการเปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิอากาศฉบับใหม่ที่จะมีการประชุมกันในเดือนธ.ค.นี้ที่กรุงโคเปนเฮเกน เดนมาร์ก

ทั้งนี้ การลดปริมาณการปล่อยก๊าซเรือนกระจกจากรถยนต์ โรงงานไฟฟ้าจากถ่านหิน และต้นตอก่อมลภาวะอื่นๆจะช่วยลดจำนวนก๊าซคาร์บอนไดอ็อกไซด์ที่ใช้ในการผลิตต่อหน่วยพลังงาน 1 หน่วยลงได้ แต่ปริมาณการปล่อยก๊าซก็อาจจะเพิ่มขึ้นได้หากโรงงานในประเทศมีจำนวนเพิ่มขึ้น

ท็อด สเติร์น ผู้แทนเจรจาด้านสภาพภูมิอากาศของประธานาธิบดีบารัค โอบามา ไม่ได้แสดงความเห็นต่อเรื่องจุดยืนของจีน แต่กล่าวว่า ความสำคัญในการริเริ่มโครงการดังกล่าวขึ้นอยู่กับว่า มีการลดปริมาณการปล่อยก๊าซมากน้อยเพียงใด

จีนและสหรัฐเป็นประเทศที่ปล่อยก๊าซเรือนกระจกประมาณ 40% โดยจีนและประเทศกำลังพัฒนาอื่นๆ เช่น อินเดีย เคยแจ้งก่อนหน้านี้ว่า ตนเองจะไม่ลงนามในข้อตำลงที่มีข้อผูกมัดในเรื่องของการควบคุมการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดอ็อกไซด์



เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ