นางเฉียว ฮง นักเศรษฐศาสตร์จากโกลด์แมน แซคส์ คาดการณ์ว่า ดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) ซึ่งเป็นดัชนีวัดภาวะเงินเฟ้อทั่วประเทศ จะพุ่งขึ้นแตะระดับ 5.5% ในเดือนพ.ค. จากระดับ 5.3% ของเดือนเม.ย. เนื่องจากราคาอาหารปรับตัวสูงขึ้น ซึ่งทำให้มีความเป็นไปได้มากขึ้นว่าธนาคารกลางจีนอาจตัดสินใจปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย
นางเฉียวกล่าวว่า การพุ่งขึ้นของราคาอาหาร โดยเฉพาะเนื้อหมู เป็นสาเหตุหลักที่ทำให้ดัชนี CPI พุ่งขึ้น โดยราคาเนื้อหมูทะยานขึ้นอย่างต่อเนื่องนับตั้งแต่ต้นเดือนพ.ค. เนื่องจากความต้องการที่สูงขึ้นในช่วงวันหยุดเทศกาลเรือมังกรของจีน
ทั้งนี้ นางเฉียวคาดว่า ราคาอาหาร ซึ่งคิดเป็นสัดส่วน 1 ใน 3 ของการคำนวณดัชนี CPI จะพุ่งขึ้น 12.1% ในเดือนพ.ค. ซึ่งสูงกว่าเดือนเม.ย.ที่เพิ่มขึ้น 11.5%
ขณะที่นักวิเคราะห์จากไชน่า อินเตอร์เนชั่นแนล แคปิตอล (CICC) คาดว่า ดัชนีซีพีไอของจีนจะพุ่งขึ้นแตะระดับ 5.5% โดยคาดว่าสภาพอากาศแห้งแล้งในพื้นที่ตอนใต้ของจีนจะหนุนราคาสินค้าทางการเกษตรให้ปรับตัวสูงขึ้น และคาดว่าราคาสินค้านอกหมวดอาหารจะยังคงสูงขึ้นเช่นกัน
ทั้งนี้ นักวิเคราะหของ CICC คาดว่า การพุ่งขึ้นของตัวเลขเงินเฟ้อจะส่งผลให้ธนาคารกลางจีนปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในเดือนมิ.ย.
นอกจากนี้ นายตง เซียะหนาน นักเศรษฐศาสตร์ของเซี่ยงไฮ้ ซิเคียวริตีส์คาดว่า ธนาคารกลางจีนจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในช่วงสุดสัปดาห์นี้ และคาดว่าจะมีการปรับเพิ่มเพดานกันสำรองเงินฝากของธนาคารพาณิชย์ (RRR) หลังจากที่ทางการจีนเปิดเผยข้อมูลเศรษฐกิจมหภาคในสัปดาห์หน้า
สำนักข่าวซินหัวรายงานว่า ธนาคารกลางจีนได้ปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยแล้ว 4 ครั้งนับตั้งแต่เดือนต.ค.ปีที่แล้วเพื่อควบคุมเงินเฟ้อ และได้ปรับเพิ่มเพดาน RRR ถึง 5 ครั้งในปีนี้ โดยปัจจุบันเพดาน RRR ของจีนยืนอยู่ที่ระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ที่ 21%