สิงคโปร์มีแผนจัดตั้งสถาบันเพื่อศึกษาแบบแผนและความต้องการของผู้บริโภคในเอเชีย อย่างเช่นตลาดผู้บริโภคจีนที่กำลังเติบโต
แชนแนล นิวส์เอเชีย รายงานว่า ปัจจุบันบริษัททั่วโลกเล็งเห็นถึงความจำเป็นของการศึกษาว่าจะสร้างสรรค์ผลิตภัณฑ์สำหรับผู้บริโภคในเอเชียอย่างไร เนื่องจากเอเชียมีชนชั้นกลางเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องและมีกำลังซื้อเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ
ผู้บริโภคจีนแสดงให้เห็นแล้วว่ามีกำลังซื้อ และคาดว่ากว่า 70% ของประชากรจีนทั้งหมดจะเป็นชนชั้นกลางภายในปี 2573 ซึ่งอาจก่อให้เกิดตลาดสินค้าและบริการมูลค่าสูงถึง 10 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐต่อปี
นายพอล โดนาโต รองประธานบริหารและประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายวิจัยของบริษัทที่ปรึกษานีลเส็น (Nielsen) กล่าวว่า สิงคโปร์จะช่วยสร้างหลักสูตรที่เหมาะสมกับการศึกษาผู้บริโภคในเชิงลึก ซึ่งไม่เคยมีมหาวิทยาลัยแห่งใดในโลกทำมาก่อน
เขากล่าวว่าสถาบันดังกล่าวจะเป็นศูนย์กลางที่บริษัทต่างๆสามารถเข้ามาดูกรณีศึกษา ขอความช่วยเหลือ และเรียนรู้เรื่องการตั้งสำนักงานใหญ่ในสิงคโปร์ โดยข้อมูลที่รวบรวมไว้ไม่เพียงช่วยให้บริษัทต่างๆขายสินค้าให้กับลูกค้ากลุ่มใหม่ได้เท่านั้น แต่ยังช่วยให้บริษัทต่างๆสามารถพัฒนาผลิตภัณฑ์ที่ทันสมัยและเหมาะกับผู้บริโภคในเอเชียโดยเฉพาะ
ในการพัฒนาสินค้า อาทิ แชมพูหรือครีมอาบน้ำ หลายบริษัทมักศึกษาว่าผู้บริโภคในโลกตะวันตกต้องการอะไร และสินค้าใดเหมาะกับผู้บริโภคในประเทศตะวันตก แต่หลายองค์กรเริ่มมองเห็นแล้วว่าควรเปลี่ยนไปให้ความสนใจและตอบสนองความต้องการของผู้บริโภคในเอเชีย ทำให้มีการคาดการณ์ว่าหลายบริษัทจะสร้างสรรค์ผลิตภัณฑ์และโซลูชั่นต่างๆเพื่อผู้บริโภคในเอเชียมากขึ้น จากนั้นจึงนำไปปรับใช้กับผู้บริโภคในโลกตะวันตก
สิงคโปร์ได้จัดตั้งคณะที่ปรึกษาระหว่างประเทศว่าด้วยการศึกษาผู้บริโภคเชิงลึก (Consumer Insights International Advisory Panel) ภายใต้การกำกับดูแลของคณะกรรมการพัฒนาเศรษฐกิจ คณะที่ปรึกษาดังกล่าวประกอบด้วยสมาชิก 12 คนจากหลายบริษัท อาทิ เลอโนโว, ฟิลิปส์ คอนซูเมอร์ ไลฟ์สไตล์ และ ไททัน อินดัสทรีส์ และมีหน้าที่เสนอแนะว่าจะผลักดันสิงคโปร์ให้เป็นศูนย์กลางธุรกิจและนวัตกรรมของเอเชียได้อย่างไร โดยทางคณะที่ปรึกษาได้มีการประชุมร่วมกันครั้งแรกไปเมื่อไม่นานมานี้ สำนักข่าวซินหัวรายงาน