เวียดนามวางแผนเพิ่มส่งออกข้าวนึ่งในปีหน้าเป็น 400,000 ตัน

ข่าวต่างประเทศ Thursday December 15, 2011 18:03 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

สำนักข่าวเวียดนาม นิวส์ รายงานโดยอ้างการเปิดเผยของประธานสมาคมอาหารเวียดนาม (VFA) ว่า เวียดนามวางแผนเพิ่มการส่งออกข้าวนึ่ง (Parboiled Rice) อีกหนึ่งในสาม สู่ระดับ 400,000 ตันในปีหน้า จากระดับ 300,000 ตันในปีนี้

ประธาน VFA กล่าวว่า การผลิตข้าวนึ่งนอกจากจะเพิ่มความหลากหลายและคุณภาพข้าวของเวียดนามแล้ว ยังช่วยให้เกษตรกรได้รับประโยชน์สูงสุดจากการเพาะปลูกข้าวเปียกในช่วงฤดูร้อน-ฤดูใบไม้ร่วงอีกด้วย

รายงานของสมาคมระบุว่า การส่งออกข้าวนึ่งของเวียดนามในปีนี้คิดเป็นสัดส่วน 10% ของอุปสงค์ทั่วโลก

ข้าวนึ่งคือข้าวเปลือกที่นำมาแช่น้ำจนอิ่มตัว และเป็นที่นิยมของหลายคนเนื่องจากมีคุณค่าทางอาหารสูง โดยในบางประเทศ โดยเฉพาะภูมิภาคที่ประชากรมีรายได้สูง ข้าวนึ่งกำลังได้รับความนิยมมากขึ้นและกำลังจะมาแทนที่ข้าวขาว

ประธาน VFA กล่าวว่า การส่งออกข้าวนึ่งได้ราคาสูงกว่าข้าวขาวหัก 5% อยู่ถึง 50-60 ดอลลาร์สหรัฐต่อตัน

ด้านผู้อำนวยการทั่วไปบริษัทวินห์ พัต อินเวสเมนท์ คอร์ปอเรชั่น กล่าวว่า เวียดนาม ซึ่งเป็นประเทศผู้ส่งออกข้าวรายใหญ่อันดับสองของโลกรองจากประเทศไทย ได้ส่งออกข้าวนึ่งไปยังหลายประเทศในยุโรปตะวันออก แอฟริกา และเอเชีย ที่ราคาเฉลี่ย 570 ดอลลาร์ต่อตัน

ขณะที่ผู้เชี่ยวชาญหลายรายกล่าวว่า ข้าวนึ่งของเวียดนามมีคุณภาพค่อนข้างสูง ช่วยให้มีความได้เปรียบประเทศคู่แข่งในภูมิภาคอย่าง อินเดีย และ ปากีสถาน

สมาคมอาหารเวียดนามรายงานว่า เวียดนาม เซาเทิร์น ฟู้ด คอร์ปอเรชั่น จะเสร็จสิ้นการก่อสร้างโรงงานอีก 3 แห่งสำหรับผลิตข้าวนึ่งเพื่อการส่งออก โดยจะเริ่มดำเนินการผลิตได้ในปีหน้า ที่กำลังการผลิต 300,000 ตันต่อปี ในขณะที่เป้าหมายการส่งออกส่วนที่เหลือจะมาจากการผลิตของบริษัทเอกชน

ทั้งนี้ เวียดนามเริ่มส่งออกข้าวนึ่งในปี 2553 โดยมียอดส่งออกกว่า 10,000 ตัน แต่ถึงแม้ว่าการส่งออกข้าวนึ่งจะได้ราคาสูงกว่า แต่ผู้ผลิตของเวียดนามยังคงลังเลที่จะลงทุนในการผลิต

ผู้บริหารของบริษัทผลิตข้าวแห่งหนึ่งเผยว่า สาเหตุที่ทำให้ผู้ผลิตลังเลนั้น เป็นเพราะการผลิตข้าวนึ่งต้องใช้เงินลงทุนสูงกว่าการสีข้าวขาว

นอกจากนี้ ผู้บริหารคนดังกล่าวระบุว่า การแย่งส่วนแบ่งตลาดจากประเทศไทย ซึ่งเป็นประเทศผู้ส่งออกรายใหญ่ และประเทศคู่แข่งรายอื่นๆ ถือเป็นความท้าทายที่สำคัญของผู้ผลิตข้าวจากเวียดนาม

สมาคมอาหารเวียดนามระบุว่า ปกติแล้ว ข้าวที่เพาะปลูกในช่วงฤดูร้อน-ฤดูใบไม้ร่วงของเวียดนาม มีช่วงการเก็บเกี่ยวตรงกับฤดูมรสุม และหากเวียดนามสามารถครองส่วนแบ่งในตลาดโลกได้อย่างน้อย 30% เกษตรกรก็จะมีความวิตกกังวลเกี่ยวกับการเก็บเกี่ยวผลผลิตน้อยลง สำนักข่าวซินหัวรายงาน


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ