ลูก้า เปาลาซซี หัวหน้าศูนย์วิจัยของคอนฟินดุสเทรีย (Confindustria) ซึ่งเป็นสมาคมอุตสาหกรรมชั้นนำของอิตาลี กล่าวว่า อิตาลีกำลังตกอยู่ในภาวะถดถอยที่รุนแรงกว่าที่ได้คาดการณ์ไว้ในก่อนหน้านี้
สมาคมฯ คาดว่า ผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (จีดีพี) ของอิตาลีจะร่วงลง 1.6% ในปี 2555 อันเป็นผลมาจากการหดตัวลง 2% ในระหว่างช่วงฤดูร้อนปี 2554 ถึงฤดูใบไม้ผลิปี 2555
เมื่อเดือนกันยายนที่ผ่านมา คอนฟินดุสเทรียคาดการณ์ว่า จีดีพีของอิตาลีจะขยายตัวที่ระดับ 0.2% ในปี 2555
สำหรับภาระทางด้านการคลังนั้น สมาคมฯ ประเมินว่า อาจจะแตะระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ที่ 45.5% ของจีดีพีในปี 2556 ขณะที่ตลาดแรงงานมีแนวโน้มเชิงลบเช่นเดียวกัน โดยคาดว่าอัตราว่างงานจะแตะที่ระดับ 9% โดยเฉพาะอย่างยิ่งในกลุ่มเยาวชน
นอกจากนี้ คอนฟินดุสเทรียยังคาดว่า จีดีพีของอิตาลีจะขยายตัว 0.6% ในปี 2556 แต่ก็เตือนว่า การขยายตัวจะขึ้นอยู่กับการปรับตัวลดลงของอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลระยะยาวจากระดับปัจจุบันที่ประมาณ 7% รวมทั้งการใช้นโยบายรัดเข็มขัด
ทั้งนี้ ธนาคารกลางอิตาลีได้เปิดเผยก่อนหน้านี้ว่า หนี้สาธารณะของอิตาลีได้พุ่งทะลุระดับ 1.9 ล้านล้านยูโร (ประมาณ 2.5 ล้านล้านดอลลาร์) ในเดือนตุลาคม ขณะที่สำนักงานสถิติแห่งชาติระบุว่า อัตราเงินเฟ้อปรับตัวลดลงเล็กน้อยสู่ระดับ 3.3% ในเดือนพฤศจิกายน
นายคอร์ราโด ปาสเซรา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพัฒนาเศรษฐกิจกล่าวว่า วิกฤตเศรษฐกิจของอิตาลีเลวร้ายกว่าที่คาดในช่วงที่รัฐบาลฉุกเฉินของนายกรัฐมนตรีมาริโอ มอนติ สาบานตนเข้ารับตำแหน่งในเดือนพฤศจิกายน
"อิตาลีอยู่ในภาวะถดถอย" นายปาสเซรากล่าว โดยกล่าวหาว่า วิกฤตดังกล่าวมีสาเหตุมาจากการที่สหภาพยุโรปจัดการกับวิกฤตที่เกิดขึ้นกับกรีซได้ไม่ดีพอ สำนักข่าวซินหัวรายงาน