สกุลเงินยูโรอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับสกุลเงินดอลลาร์ ในการซื้อขายที่ตลาดปริวรรตเงินตรานิวยอร์กเมื่อคืนนี้ (20 ม.ค.) ขณะที่นักลงทุนรอดูข้อมูลล่าสุดจากการเจรจาระหว่างรัฐบาลกรีซและเจ้าหนี้ภาคเอกชน ท่ามกลางกระแสคาดการณ์ว่าการเจรจาน่าจะได้ผลเป็นที่น่าพอใจในเรื่องการปรับลดมูลค่าพันธบัตร
เงินยูโรอ่อนค่าลง 0.26% แตะที่ 1.2930 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับของวันพฤหัสบดีที่ 1.2964 ดอลลาร์สหรัฐ และอ่อนค่าลง 0.46% สู่ระดับ 99.520 เยน จากระดับ 99.980 เยน
เงินดอลลาร์สหรัฐลดลง 0.19% เมื่อเทียบกับเงินเยนที่ 76.960 เยน จากระดับ 77.110 เยน แต่เพิ่มขึ้น 0.23% เมื่อเทียบกับฟรังค์สวิสที่ 0.9343 ฟรังค์ จากระดับ 0.9322 ฟรังค์ และบวก 0.20% แตะ 1.0132 ดอลลาร์แคนาดา จากระดับ 1.0112 ดอลลาร์แคนาดา
ขณะที่ค่าเงินปอนด์ปรับตัวขึ้น 0.46% แตะที่ 1.5561 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 1.5489 ดอลลาร์สหรัฐ
ค่าเงินดอลลาร์ออสเตรเลียพุ่ง 0.68% แตะที่ 1.0484 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 1.0413 ดอลลาร์สหรัฐ และค่าเงินดอลลาร์นิวซีแลนด์ปรับตัวขึ้น 0.34% แตะที่ 0.8056 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 0.8029 ดอลลาร์สหรัฐ
นักลงทุนจับตาการเจรจาระหว่างรัฐบาลกรีซและเจ้าหนี้ภาคเอกชนอย่างใกล้ชิด โดยการหารือได้ดำเนินเข้าสู่วันที่สามเมื่อวานนี้ ด้วยความพยายามของทุกฝ่ายที่จะบรรลุข้อตกลงปรับลดมูลค่าพันธบัตรรัฐบาลกรีซ ซึ่งจะช่วยให้กรีซหลีกเลี่ยงการผิดนัดชำระหนี้ที่อาจสร้างความปั่นป่วนวุ่นวายในตลาดได้
ทั้งนี้ นายอีแวนเจลอส เวนิเซลอส รัฐมนตรีคลังกรีซ ได้เจรจากับเจ้าหนี้ภาคเอกชนเพื่อขอให้ยอมปรับลดมูลค่าการถือครองพันธบัตรกรีซลง 1 แสนล้านยูโร (1.29 แสนล้านดอลลาร์สหรัฐ) หรือคิดเป็น 50% เพื่อแลกกับการจ่ายเงินสดและการออกพันธบัตรใหม่ที่มีระยะเวลาไถ่ถอนนานออกไป หลังจากที่การเจรจาได้หยุดชะงักไปเมื่อสัปดาห์ที่แล้วเนื่องจากเกิดการไม่เห็นด้วยกับอัตราดอกเบี้ยของพันธบัตรล็อตใหม่
แม้เงินยูโรอ่อนค่าลงเมื่อวันศุกร์ แต่รวมตลอดทั้งสัปดาห์ ยูโรปรับตัวขึ้นกว่า 2% โดยเมื่อวันพฤหัสบดี ค่าเงินยูโรพุ่งขึ้นแตะระดับสูงสุดในรอบ 2 สัปดาห์เมื่อเทียบกับดอลลาร์ หลังจากที่ฝรั่งเศสและสเปนประสบความสำเร็จในการประมูลขายพันธบัตร ซึ่งช่วยให้นักลงทุนคลายความวิตกกังวลเกี่ยวกับการลุกลามของวิกฤตหนี้ยุโรป
ขณะที่ ดัชนีดอลลาร์ ซึ่งเปรียบเทียบเงินดอลลาร์สหรัฐกับตระกร้าสกุลเงินหลัก 6 สกุล ขยับลง 0.06% แตะระดับ 80.17 ในวันศุกร์