การปิโตรเลียมสหรัฐ (API) รายงานว่า การส่งมอบปิโตรเลียมทั้งหมดในสหรัฐลดลง 1.2% มาอยู่ที่ 18.9 ล้านบาร์เรลต่อวันโดยเฉลี่ย ซึ่งถือเป็นการร่วงลงมากที่สุดในช่วงสิบปีที่ผ่านมา ยกเว้นปี 2551
ในเดือนธันวาคม 2554 การส่งมอบปิโตรเลียม ซึ่งเป็นข้อมูลชี้วัดอุปสงค์ ลดลง 5.9% จากช่วงเวลาเดียวกันในปีก่อนหน้า สู่ระดับ 18.6 ล้านบาร์เรลต่อวันโดยเฉลี่ย ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดในรอบ 15 ปี
รายงานระบุว่า ในบรรดาผลิตภัณฑ์กลั่นนั้น การส่งมอบน้ำมันเบนซินลดลง 2.1% ในปี 2554 มาอยู่ระดับ 8.803 ล้านบาร์เรลต่อวันโดยเฉลี่ย และลดลง 4.3% ในเดือนธันวาคม
"ความอ่อนแอของอุปสงค์น้ำมันเบนซินในปี 2554 สะท้อนให้เห็นถึงความอ่อนแอโดยรวมของการใช้จ่ายผู้บริโภค" จอห์น เฟลมี หัวหน้านักเศรษฐศาสตร์ของ API กล่าว
อย่างไรก็ดี ในขณะที่อุปสงค์ลดลง อุปทานยังคงมีอยู่อย่างเพียงพอ โดยการผลิตน้ำมันดิบปรับตัวขึ้น 2.5% ในปี 2554 สู่ระดับ 5.6 ล้านบาร์เรลต่อวันโดยเฉลี่ย
สำหรับการนำเข้าปิโตรเลียมในปี 2554 ร่วงลง 5.6% จากปีก่อนหน้า ขณะเดียวกัน การนำเข้าน้ำมันดิบลดลง 3.4% และการนำเข้าผลิตภัณฑ์กลั่นร่วงลง 14%
ด้านการส่งออกปิโตรเลียมโดยรวม ซึ่งเกือบทั้งหมดเป็นการส่งออกผลิตภัณฑ์กลั่น เพิ่มขึ้น 25.5% ในปี 2554 เมื่อเทียบกับปี 2553
สต็อกน้ำมันดิบ ณ สิ้นปี 2554 เพิ่มขึ้น 0.4% จากปี 2553 แตะที่ระดับ 3346 ล้านบาร์เรล ซึ่งเป็นระดับสูงสุดในรอบ 17 ปี
API เป็นตัวแทนของบริษัทน้ำมันและก๊าซมากกว่า 490 ราย ซึ่งมีส่วนสนับสนุนเศรษฐกิจสหรัฐในสัดส่วน 7.7% สำนักข่าวซินหัวรายงาน