คณะกรรมการเพื่อการพัฒนาและปฏิรูปแห่งชาติของจีน (NDRC) เปิดเผยว่า ปริมาณการผลิตเหล็กดิบในปี 2554 เพิ่มขึ้น 8.9% เมื่อเทียบเป็นรายปี สู่ระดับ 683.27 ล้านตัน โดยถึงแม้ว่าอัตราขยายตัวในปีที่แล้วน้อยกว่าปี 2553 อยู่ 0.4% แต่จีนก็ยังคงครองตำแหน่งประเทศผู้ผลิตเหล็กกล้ารายใหญ่สุดของโลก
NDRC ระบุในแถลงการณ์ที่เผยแพร่ทางเว็บไซต์ว่า การขยายตัวของผลผลิตเหล็กรีดในปี 2554 ก็ชะลอตัวลงเช่นกัน โดยขยายตัว 12.3% เมื่อเทียบเป็นรายปี สู่ระดับ 881.31 ล้านตัน ซึ่งชะลอตัวลง 2.4%
นอกจากนี้ NDRC ยังรายงานโดยอ้างถึงข้อมูลทางศุลกากรซึ่งระบุว่า การนำเข้าแร่เหล็กเพิ่มขึ้น 10.9% เมื่อเทียบเป็นรายปี แตะระดับ 686.06 ล้านตันในปีที่แล้ว ขณะที่ปริมาณการส่งออกผลิตภัณฑ์เหล็กกล้าเพิ่มขึ้น 14.9% สู่ระดับ 48.88 ล้านตัน
ราคาเหล้กกล้ายังคงปรับตัวลดลงในเดือนธ.ค.2554 โดยดัชนีรวมราคาเหล็กกล้าลดลง 1.44 จุดจากเดือนพ.ย. สู่ระดับ 120.95 จุด ดัชนีเคลื่อนไหวระหว่าง 130.74 - 136.04 จุด ในช่วงสามไตรมาสแรกของปีที่แล้ว
ทั้งนี้ ภาคอุตสาหกรรมเหล็กกล้ามีกำไรรวม 2.952 แสนล้านหยวน (4.675 หมื่นล้านดอลลาร์) ในช่วง 11 เดือนแรกของปีที่แล้ว เพิ่มขึ้น 29.9% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปี 2553 สำนักข่าวซินหัวรายงาน