สกุลเงินยูโรดีดตัวขึ้นเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐ ในการซื้อขายที่ตลาดปริวรรตเงินตรานิวยอร์กเมื่อคืนนี้ (26 เม.ย.) หลังจากสมาคมนายหน้าอสังหาริมทรัพย์แห่งชาติของสหรัฐเปิดเผยว่า ดัชนีการทำสัญญาขายบ้านเดือนมี.ค.ที่เพิ่มขึ้นเกินคาด ซึ่งข้อมูลดังกล่าวช่วยกระตุ้นให้นักลงทุนเข้าซื้อสินทรัพย์เสี่ยง รวมถึงสกุลเงินยูโร
สกุลเงินยูโรแข็งค่าขึ้น 0.11% แตะที่ 1.3236 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับของวันพุธที่ 1.3222 ดอลลาร์สหรัฐ ขณะที่เงินปอนด์แข็งค่าขึ้น 0.17% แตะที่ 1.6193 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 1.6166 ดอลลาร์สหรัฐ
ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐอ่อนแรงลง 0.38% เมื่อเทียบกับเงินเยนที่ระดับ 80.950 เยน จากระดับ 81.260 เยน และขยับลง 0.09% เมื่อเทียบกับฟรังค์สวิสที่ระดับ 0.9077 ฟรังค์ จากระดับ 0.9085 ฟรังค์
ค่าเงินดอลลาร์ออสเตรเลียดีดขึ้น 0.17% แตะที่ 1.0391 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 1.0373 ดอลลาร์สหรัฐ และค่าเงินดอลลาร์นิวซีแลนด์ร่วงลง 0.24% แตะที่ 0.8154 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 0.8174 ดอลลาร์สหรัฐ
สกุลเงินยูโรแข็งค่าขึ้นเนื่องจากนักลงทุนต้องการลงทุนในสินทรัพย์เสี่ยงและให้อัตราผลตอบแทนสูง หลังจากสมาคมนายหน้าอสังหาริมทรัพย์แห่งชาติของสหรัฐเปิดเผยว่า ดัชนีการทำสัญญาขายบ้านที่รอปิดการขาย (pending home sales) เดือนมี.ค. เพิ่มขึ้น 4.1% แตะ 101.4 จุด ซึ่งเป็นระดับสูงสุดนับตั้งแต่เดือนเม.ย.2553 และสูงกว่าที่นักวิเคราะห์ส่วนใหญ่คาดว่าจะเพิ่มขึ้น 1.0%
อย่างไรก็ตาม สกุลเงินยูโรได้รับแรงกดดันหลังจากคณะกรรมาธิการยุโรปรายงานเมื่อช่วงเย็นวานนี้ตามเวลาไทยว่า ดัชนีความเชื่อมั่นต่อแนวโน้มเศรษฐกิจของผู้บริหารและผู้บริโภคในกลุ่มประเทศที่ใช้สกุลเงินยูโร ปรับตัวลงมาอยู่ที่ 92.8 จุด ในเดือนเม.ย. จากระดับ 94.5 จุด ในเดือนมี.ค. ในขณะที่เศรษฐกิจของภูมิภาคส่งสัญญาณว่ากำลังกลับเข้าสู่ภาวะถดถอย ซึ่งตัวเลขดังกล่าวร่วงลงมากกว่าที่นักเศรษฐศาสตร์คาดการณ์ไว้ที่ระดับ 94.2 จุด
ขณะเดียวกันมีรายงานว่า กระทรวงการคลังอิตาลีขายตั๋วเงินคลังอายุ 6 เดือนได้ 8.5 พันล้านยูโร โดยอัตราผลตอบแทนพุ่งสูงสุดนับแต่ต้นปีนี้ที่ 1.77% เทียบกับ 1.12% ในการประมูลเมี่อเดือนมี.ค.
ส่วนสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐได้รับแรงกดดันจากความวิตกกังวลเกี่ยวกับภาวะซบเซาในตลาดแรงงานสหรัฐ หลังจากกระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยว่า ผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานครั้งแรกในรอบสัปดาห์ที่สิ้นสุดวันที่ 21 เม.ย. ลดลง 1,000 ราย มาอยู่ที่ 388,000 ราย ซึ่งลดลงน้อยกว่าที่คาดการณ์จะลดลงมาอยู่ที่ 375,000 ราย ส่งสัญญาณว่าการฟื้นตัวอย่างแข็งแกร่งของตลาดแรงงานสหรัฐในช่วงก่อนหน้านี้ เริ่มอ่อนแรง
กระทรวงพาณิชย์สหรัฐจะเปิดเผยตัวเลขประมาณการครั้งแรกของผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (จีดีพี) ที่แท้จริงประจำไตรมาส 2/2012 ในวันนี้ เวลา 19.30 น.ตามเวลาไทย ซึ่งนักวิเคราะห์ส่วนใหญ่คาดว่า จีดีพีไตรรมาสแรกจะขยายตัว 2.5% น้อยกว่าไตรมาส 4/2554 ที่ขยายตัว 3.0%