สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนมิ.ย.ปรับตัวขึ้น 23.5 ดอลลาร์ หรือ 1.51% ปิดที่ 1,575.9 ดอลลาร์/ออนซ์ หลังจากที่ซื้อขายกันในกรอบ 1,549.00-1,580.80 ดอลลาร์ อย่างไรก็ตาม ตลอดสัปดาห์สัญญาทองคำยังคงร่วงลง 1.2% หลังจากที่ปรับตัวลดลงมา 3 วันติดต่อกันก่อนหน้านี้
สัญญาโลหะเงินส่งมอบเดือนพ.ค.พุ่งขึ้น 45.3 เซนต์ หรือ 1.7% ปิดที่ 27.220 ดอลลาร์/ออนซ์ ส่วนสัญญาโลหะทองแดงส่งมอบเดือนพ.ค ลดลง 0.75 เซนต์ หรือ 0.2% ปิดที่ 3.3440 ดอลลาร์/ปอนด์
สัญญาพลาตินัมส่งมอบเดือนก.ค.ดีดขึ้น 17.70 ดอลลาร์ หรือ 1.2% ปิดที่ 1,535.50 ดอลลาร์/ออนซ์ % และสัญญาพัลลาเดียมส่งมอบเดือนมิ.ย.ลดลง 1.55 ดอลลาร์ หรือ 0.2% ปิดที่ 723.90 ดอลลาร์/ออนซ์
กระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยว่า ตัวเลขจ้างงานนอกภาคเกษตรปรับตัวเพิ่มขึ้นเล็กน้อยเพียง 88,000 ตำแหน่งในเดือนมี.ค. ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดในรอบ 9 เดือน และน้อยกว่าที่นักวิเคราะห์คาดว่าจะเพิ่มขึ้น 190,000-200,000 ตำแหน่ง ส่วนอัตราว่างงานลดลงมาอยู่ที่ 7.6% ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดในรอบ 4 ปี จากระดับ 7.7.% ในเดือนก่อนหน้านี้
การเปิดเผยตัวเลขจ้างงานนอกภาคเกษตรล่าสุดนี้บ่งชี้ถึงการขยายตัวที่ช้าลงในตลาดแรงงานก่อนที่สหรัฐจะเข้าสู่ฤดูใบไม้ผลิ ซึ่งสอดคล้องกับรายงานจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานในรอบสัปดาห์ที่สิ้นสุดวันที่ 30 มี.ค. ซึ่งพุ่งขึ้น 28,000 ราย แตะระดับ 385,000 ราย ตรงข้ามกับที่นักวิเคราะห์คาดว่าจะลดลงแตะระดับ 350,000 ราย
ด้าน ADP ซึ่งเป็นบริษัทวิจัยตลาดแรงงานในสหรัฐ เปิดเผยเมื่อวันพุธว่า ภาคเอกชนทั่วสหรัฐมีการจ้างงานเพิ่มขึ้น 158,000 ตำแหน่งในเดือนมี.ค. ซึ่งต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์ส่วนใหญ่คาดการณ์ว่าจะเพิ่มขึ้นราว 190,000-200,000 ตำแหน่ง
นักวิเคราะห์ส่วนหนึ่งมองว่า ข้อมูลตลาดแรงงานล่าสุดน่าจะทำให้ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ชะงักความคิดที่จะถอนการใช้มาตรการผ่อนคลายเชิงปริมาณ (QE) ไปได้สักระยะหนึ่ง โดยนักลงทุนจับตารายงานตัวเลขจ้างงานเนื่องจากอาจเป็นข้อมูลบ่งชี้ว่าเฟดจะลดการซื้อสินทรัพย์หรือไม่ เนื่องจากโดยปกติแล้ว ราคาทองจะได้ประโยชน์จากการใช้นโยบายการเงินแบบผ่อนคลาย
ดอลลาร์สหรัฐที่อ่อนค่าลงภายหลังจากที่มีการเปิดเผยตัวเลขจ้างงาน ก็เป็นปัจจัยหนุนให้ราคาทองคำปรับตัวสูงขึ้น โดยดัชนีดอลลาร์ ซึ่งเป็นข้อมูลชี้วัดสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐกับอีก 6 สกุลเงินหลัก ลดลงแตะ 82.467 จากระดับ 82.622