ทั้งยังเป็นทางเลือกให้กับผู้ใช้สิทธิตามพระราชบัญญัติการกลับไปใช้สิทธิในบำเหน็จบำนาญตามพระราชบัญญัติบำเหน็จบำนาญข้าราชการ พ.ศ. 2494 พ.ศ. 2557 (พ.ร.บ. Undo) ซึ่งคาดว่าจะได้รับเงินสะสมและผลประโยชน์ประมาณ 70,000 ล้านบาทในเดือนตุลาคม พ.ศ. 2558
โดยพันธบัตรออมทรัพย์มีรูปแบบและเงื่อนไข ดังนี้ เงื่อนไขการชำระดอกเบี้ย ปีละ 2 งวด คือ ในวันที่ 19 เมษายน และ 19 ตุลาคม ของทุกปี วงเงินซื้อขั้นต่ำ 1,000 บาท วงเงินซื้อขั้นสูง 2,000,000 บาท และไม่จำกัดจำนวนครั้งที่เข้าซื้อต่อราย แต่วงเงินรวมที่ซื้อไม่เกินรายละ 2,000,000 บาท ต่อ 1 ธนาคารตัวแทนจำหน่าย สำหรับธนาคารตัวแทนจาหน่าย ได้แก่ ธนาคารกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) ธนาคารกรุงไทย จำกัด (มหาชน) ธนาคารกสิกรไทย จำกัด (มหาชน) ธนาคารไทยพาณิชย์ จำกัด (มหาชน)
ผู้มีสิทธิ์ซื้อ ต้องเป็นบุคคลธรรมดาที่ถือสัญชาติไทย หรือมีถิ่นที่อยู่ในประเทศไทย สภากาชาดไทย มูลนิธิ สมาคม สหกรณ์ วัด สถานศึกษาของรัฐ โรงพยาบาลของรัฐ นิติบุคคลอื่นใดที่ไม่มีวัตถุประสงค์ในการแสวงหากำไร
ทั้งนี้ ผู้ที่สนใจซื้อพันธบัตรสามารถทำรายการซื้อพันธบัตรดังกล่าว ผ่านเคาน์เตอร์ทุกสาขาและเครื่องถอนเงินอัตโนมัติ (ATM) ของธนาคารตัวแทนจำหน่าย 4 แห่ง โดยผู้ซื้อพันธบัตรออมทรัพย์ฯ แบบไร้ใบตราสาร (Scripless) รายใหม่ที่ไม่เคยลงทะเบียนข้อมูลและเปิดบัญชีฝากหลักทรัพย์สำหรับพันธบัตรออมทรัพย์ของกระทรวงการคลังแบบ Scripless มาก่อน ต้องลงทะเบียน และเปิดบัญชี ฝากหลักทรัพย์ที่ธนาคารตัวแทนจำหน่าย
โดยการลงทะเบียน ใช้หลักฐานดังนี้
1. สำเนาบัตรประจำตัวประชาชน (กรณีบุคคลธรรมดา) หรือหนังสือแสดงความเป็นนิติบุคคล ที่ออกโดยส่วนราชการ (กรณีนิติบุคคล) พร้อมลงนามรับรองสำเนาถูกต้อง
2. สำเนาหน้าแรกสมุดบัญชีเงินฝาก (ยกเว้นบัญชีเงินฝากออมทรัพย์พิเศษและบัญชีเงินฝากประจำ) ของผู้ซื้อที่เปิดบัญชีไว้กับธนาคารตัวแทนจำหน่ายพร้อมลงนามรับรองสำเนาถูกต้อง ในกรณีที่ไม่มีบัญชีเงินฝาก ผู้ซื้อต้องเปิดบัญชีใหม่
ผู้ที่สนใจซื้อพันธบัตรสามารถขอรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ สำนักงานบริหารหนี้สาธารณะ ธนาคารแห่งประเทศไทย และธนาคารตัวแทนจำหน่าย หรือที่ www.pdmo.go.th, www.bot.or.th, www.bangkokbank.com , www.ktb.co.th , www.kasikornbank.com , www.scb.co.th