รมว.คลัง หนุนเพิ่มทางเลือกการลงทุนในภาวะดอกเบี้ยต่ำ-เผยรัฐบาลเร่งปฎิรูป 5 ด้านขับเคลื่อนประเทศดันศก.เติบโต

ข่าวเศรษฐกิจ Thursday March 23, 2017 12:39 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นายอภิศักดิ์ ตันติวรวงศ์ รมว.คลัง กล่าวในการเปิดงาน "มหกรรมการลงทุนครบวงจรแห่งปี ครั้งที่ 12 SET in the City กรุงเทพมหานคร 2017" ว่า การจัดงานในครั้งนี้จะช่วยสื่อให้ประชาชนได้สามารถเห็นภาพของทางเลือกใหม่ๆ ในการลงทุนได้มากขึ้น ท่ามกลางสภาวะที่อัตราดอกเบี้ยอยู่ในระดับต่ำ และสภาพคล่องของระบบธนาคารพาณิชย์ยังอยู่ในระดับสูง ซึ่งวันนี้เป็นเครื่องยืนยันได้ว่าตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยสามารถผลักดันให้ประชาชนได้มีทางเลือกในการลงทุนที่หลากหลายและมีผลตอบแทนที่ดี ไม่ว่าประชาชนจะเลือกลงทุนในตลาดหลักทรัพย์ ลงทุนผ่านกองทุน หรือแม้แต่การประกันชีวิต ก็ถือว่าเป็นอีกทางเลือกของการลงทุนด้วยเช่นกัน

สำหรับบทบาทของกระทรวงการคลังในการดูแลเศรษฐกิจของประเทศขณะนี้ กระทรวงการคลังกำลังเร่งดำเนินการปฏิรูปใน 5 ด้านที่สำคัญ ประกอบด้วย 1.การปฏิรูปด้านโครงสร้างพื้นฐานของประเทศ โดยเฉพาะด้านคมนาคมขนส่ง ทั้งระบบรถไฟทางคู่ รถไฟความเร็วสูง รวมทั้งสนามบิน ซึ่งรัฐบาลเชื่อว่าการปฏิรูปในส่วนนี้จะช่วยเพิ่มขีดความสามารถทางการแข่งขันให้กับประเทศได้เป็นอย่างดี

"การปฏิรูปโครงสร้างพื้นฐานนี้จะทำให้ประเทศเรามีศักยภาพที่เข้มแข็ง และช่วยในการเติบโตด้านเศรษฐกิจ ท่ามกลางความไม่แน่นอนของเศรษฐกิจโลกทั้งสหรัฐ และสหภาพยุโรป เป็นเหตุทำให้เราต้องพึ่งพาตัวเอง ดังนั้นการลงทุนภาครัฐจะต้องเกิด ซึ่งการลงทุนโครงสร้างพื้นฐานถือว่าดีที่สุด เพราะมีผลตอบแทนในอนาคตกลับสู่ประเทศโดยตรง" นายอภิศักดิ์ กล่าว

พร้อมกันนี้ การปฏิรูปทางการเงินก็เป็นสิ่งสำคัญ ซึ่งกระทรวงการคลังได้มีการผลักดันเรื่อง National E-Payment มาตลอดช่วง 1 ปีที่ผ่านมา เพื่อช่วยเพิ่มประสิทธิภาพของระบบการเงินไทยให้เหนือกว่าคู่แข่งในภูมิภาคนี้ทั้งหมด รวมทั้งตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยเองก็ได้มีการปรับปรุงระบบการชำระเงินในการซื้อขายหลักทรัพย์โดยลดเวลาลงจาก T+3 มาเหลือเป็น T+2

2.การปฏิรูปภาคอุตสาหกรรม เนื่องจากพบว่าอุตสาหกรรมของไทยในปัจจุบันนี้ยังคงเป็นอุตสาหกรรมเดิมเหมือนเช่นใน 20 ปีที่ผ่านมาและเข้าสู่วงจรในช่วงขาลง ดังนั้นกระทรวงการคลังจึงไม่สามารถปล่อยให้ภาคอุตสาหกรรมของไทยเข้าสู่ช่วงขาลงโดยที่ไม่ดำเนินการช่วยเหลือใดๆ เลยได้ จึงได้เสนอ New S-Curve ที่ไทยมีโอกาสที่จะแข่งขันในตลาดโลกได้เป็นอย่างดี เพื่อปรับปรุงอุตสาหกรรมเหล่านี้ให้หันมาเน้นการใช้เทคโนโลยีมากขึ้น ก้าวข้ามไปสู่ประเทศที่พัฒนาแล้ว และการจะทำให้สิ่งนี้เกิดได้เป็นรูปธรรมเร็วขึ้น รัฐบาลจึงได้มีโครงการพัฒนาเขตเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก (EEC) เพื่อเป็นจุดดึงดูดนักลงทุนจากต่างประเทศให้เข้ามาลงทุนในไทย โดยมีการสร้างสิ่งอำนวยความสะดวก พร้อมกฎระเบียบต่างๆ ที่เอื้อต่อการลงทุนใน EEC อย่างมีศักยภาพ

3.การปฏิรูปภาษี โดยได้มีการปรับปรุงแก้ไขกฎหมายในหลายฉบับที่มีความล้าสมัยและไม่ทันต่อสถานการณ์ในปัจจุบัน ทั้งที่เกี่ยวกับภาษีสรรพสามิต ภาษีศุลกากร รวมทั้งภาษีสรรพากร เพื่อทำให้การจัดเก็บภาษีมีความเป็นธรรมและเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันโดยรวมของประเทศ

4.การปฏิรูปความเหลื่อมล้ำ ซึ่งถือเป็น Agenda ใหญ่ของภาครัฐ เพราะการจะผลักดันให้เศรษฐกิจของประเทศเติบโตได้ แต่ความเหลื่อมล้ำในสังคมยังอยู่ก็คงจะไม่ได้ ซึ่งรัฐบาลได้มีมาตรการให้ความช่วยเหลือในทุกภาคส่วนของสังคมไม่ว่าจะเป็นการดูแลผู้สูงอายุ ผู้มีรายได้น้อย เพื่อให้สามารถดำรงชีวิตอยู่ในสังคมได้อย่างไม่ยากลำบากจนเกินไป

5.การปฏิรูปวินัยและความมั่นคงทางการคลัง ซึ่งกระทรวงการคลังได้ออกกฎหมายวินัยการเงินการคลัง และกฎหมายงบประมาณ ซึ่งขณะนี้อยู่ในขั้นตอนการพิจารณาของคณะกรรมการกฤษฎีกา และจะเข้าสู่การพิจารณาของสภานิติบัญญัติแห่งชาติ(สนช.) ในไม่ช้า ซึ่งจะเป็นเครื่องการันตีว่าประเทศไทยจะมีความมั่นคงทางการเงิน และรับประกันได้ว่าเศรษฐกิจไทยไม่ถังแตกอย่างแน่นอน

"เราหวังว่าเมื่อการปฏิรูปเหล่านี้เสร็จเรียบร้อย เชื่อว่าอนาคตของประเทศไทยจะต้องดีขึ้นอย่างแน่นอน และนี่คือการสร้างประเทศไทยยุคใหม่ และทำให้เราสามารถเติบโตได้ในอีก 10-20 ปีข้างหน้า...จุดประสงค์หลักของรัฐบาล คือต้องการให้คนไทยมีความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น แต่ทุกภาคส่วนก็ต้องร่วมมือและช่วยกัน เข้าใจถึงทิศทางในการขับเคลื่อนนี้" รมว.คลังกล่าว

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ