สศก. คาดภาวะเศรษฐกิจการเกษตรปี 60 โต 2.5-3.5% จากสภาพอากาศ-ปริมาณน้ำเอื้อการผลิต, ภาคใต้นำโด่ง

ข่าวเศรษฐกิจ Monday June 19, 2017 14:43 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

น.ส.จริยา สุทธิไชยา เลขาธิการสำนักงานเศรษฐกิการเกษตร กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เปิดเผยถึงผลการวิเคราะห์และประมาณการณ์ภาวะเศรษฐกิจการเกษตรตลอดปี 2560 คาดว่าจะขยายตัวอยู่ในช่วง 2.5 - 3.5% เมื่อเทียบกับปี 2559 โดยทุกสาขาการผลิตทั้งพืช ปศุสัตว์ ประมง บริการทางการเกษตร และป่าไม้ มีแนวโน้มขยายตัว

โดยมีปัจจัยเชิงบวกหลายประการ อาทิ สภาพอากาศและปริมาณน้ำที่เอื้ออำนวยต่อการผลิตมากกว่าปีที่แล้วซึ่งประสบภัยแล้ง และสถานการณ์เศรษฐกิจโลกมีแนวโน้มทิศทางที่ดีขึ้น และแนวโน้มความต้องการสินค้าเกษตรและผลิตภัณฑ์ที่เป็นอาหารและแปรรูปอุตสาหกรรมอื่นเพิ่มขึ้นสอดคล้องกับเศรษฐกิจโลก และสอดคล้องกับสต๊อกผลผลิตโลกที่ลดลง รวมถึงการดำเนินนโยบายและมาตรการด้านการเกษตรต่าง ๆ อย่างต่อเนื่องของรัฐบาล รวมทั้งภาวะเศรษฐกิจโลกในปี 2560 ที่มีทิศทางดีขึ้น

ขณะที่ปัจจัยเกื้อหนุนในประเทศที่สำคัญมาจากนโยบายขับเคลื่อนและปฏิรูปภาคเกษตรอย่างต่อเนื่อง ทั้งนโยบายส่งเสริมการเกษตรแบบแปลงใหญ่ ศูนย์เรียนรู้ ศพก. 882 ศูนย์ Agri-Map ระบบส่งน้ำและกระจายน้ำ ระบบเกษตรปลอดภัยและอินทรีย์ การสร้าง Smart /Young Smart Farmer และยกระดับความเข้มแข็งสหกรณ์ ส่งผลให้เกิดการเปลี่ยนแปลง พัฒนาในระดับพื้นที่เด่นชัดขึ้นเป็นลำดับ ทำให้ราคาสินค้าเกษตรอยู่ในเกณฑ์ดี ซึ่งเป็นส่วนสำคัญให้ภาวะเศรษฐกิจการเกษตรขยายตัว ซึ่งคาดการณ์ว่าครัวเรือนเกษตรมีรายได้ทางการเกษตร 160,835 บาทต่อครัวเรือน สัดส่วนรายได้จากผลผลิตพืช 70.98% ผลผลิตสัตว์ 25.43% และรายได้ทางการเกษตรอื่น 3.59% ซึ่งกลุ่มสินค้าเกษตรสำคัญ ซึ่งเป็นที่มาของรายได้ในภาพรวมของประเทศ ได้แก่ ข้าว ไม้ผลไม้ยืนต้น พืชไร่ ปศุสัตว์และการเพาะเลี้ยงสัตว์น้ำ ตามลำดับ

อย่างไรก็ตาม หากวิเคราะห์ภาวะเศรษฐกิจการเกษตรแบบรายภาค พบว่า ทุกภาคมีแนวโน้มขยายตัว เนื่องจากการผลิตทางการเกษตรมีการปรับตัวดีขึ้น หลังจากได้รับผลกระทบจากภาวะแห้งแล้งและปริมาณน้ำไม่เพียงพอสำหรับการเพาะปลูกในช่วงปีที่ผ่านมา และสถานการณ์ราคาสินค้าที่ปรับตัวดีขึ้น โดยภาคใต้มีการขยายตัวมากที่สุด รองลงมา คือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคกลาง และภาคเหนือ

ภาคใต้ คาดว่าภาคเกษตรจะขยายตัวในช่วง 3.6 – 4.6% จากการขยายตัวของสาขาพืชและสาขาประมงเป็นหลัก โดยสินค้าเกษตรสำคัญที่คาดว่าจะมีผลผลิตเพิ่มขึ้น ได้แก่ ปาล์มน้ำมัน ยางพารา ข้าว ผลไม้ (ทุเรียน มังคุด เงาะ และลองกอง) และกุ้งเพาะเลี้ยง เกษตรกรมีรายได้เงินสดทางการเกษตร 222,622 บาทต่อครัวเรือน

ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ คาดว่าภาคเกษตรจะขยายตัวในช่วง 2.4 – 3.4% จากการขยายตัวของสาขาพืช สาขาปศุสัตว์ และสาขาประมง เป็นหลัก โดยสินค้าที่คาดว่าจะมีผลผลิตเพิ่มขึ้น ได้แก่ ข้าว มันสำปะหลัง อ้อยโรงงาน ข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ ยางพารา หอมแดง โคเนื้อ และไก่เนื้อ รวมถึงการเพิ่มขึ้นของการจับสัตว์น้ำจืดตามธรรมชาติ และการเพาะเลี้ยงสัตว์น้ำจืด เกษตรกรมีรายได้เงินสดทางการเกษตร 107,007 บาทต่อครัวเรือน

ภาคกลาง* คาดว่าภาคเกษตรจะขยายตัวในช่วง 2.2 – 3.2% จากการขยายตัวของสาขาพืช สาขาปศุสัตว์ สาขาประมง และสาขาบริการทางการเกษตร โดยสินค้าเกษตรสำคัญที่คาดว่าจะมีผลผลิตเพิ่มขึ้น ได้แก่ ข้าว ผลไม้ (ทุเรียน มังคุด และเงาะ) อ้อยโรงงาน สับปะรดโรงงาน ไก่เนื้อ สุกร ปลาน้ำจืด และกุ้งเพาะเลี้ยง เกษตรกรมีรายได้เงินสดทางการเกษตร 264,395 บาทต่อครัวเรือน

ภาคเหนือ คาดว่าภาคเกษตรจะขยายตัวในช่วง 1.6 – 2.6% จากการขยายตัวของสาขาพืชและสาขาบริการทางการเกษตรเป็นหลัก โดยสินค้าเกษตรสำคัญที่คาดว่าจะมีผลผลิตเพิ่มขึ้น ได้แก่ ข้าวนาปรัง ลำไย อ้อยโรงงาน ลิ้นจี่ ยางพารา ข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ และสับปะรดโรงงาน เกษตรกรมีรายได้เงินสดทางการเกษตร 167,854 บาทต่อครัวเรือน


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ