กนง.-กนส.จับตา SME-ครัวเรือนความสามารถชำระหนี้ด้อยลง,search for yield ในสหกรณ์ออมทรัพย์

ข่าวเศรษฐกิจ Monday June 19, 2017 15:45 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

รายงานข่าวจากธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) เปิดเผยผลการประชุมร่วมกันระหว่างคณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) และคณะกรรมการนโยบายสถาบันการเงิน (กนส.) เมื่อวันที่ 15 มิ.ย.60 เพื่อติดตามและประเมินเสถียรภาพระบบการเงินของไทยว่า ในปัจจุบันระบบการเงินไทยโดยรวมมีเสถียรภาพ สถาบันการเงินและธุรกิจประกันภัยมีเงินกองทุนอยู่ในระดับสูง ธุรกิจขนาดใหญ่มีฐานะการเงินดี สถานะด้านการเงินต่างประเทศมีความเข้มแข็งสะท้อนจากดุลบัญชีเดินสะพัดที่เกินดุลต่อเนื่อง หนี้ต่างประเทศที่อยู่ในระดับต่ำและเงินสำรองระหว่างประเทศที่อยู่ในระดับสูงทำให้สามารถรองรับความเสี่ยงจากความไม่แน่นอนของภาวะเศรษฐกิจและการเงินต่างประเทศที่อาจจะเพิ่มขึ้นในระยะต่อไปได้

อย่างไรก็ตาม ภาวะเศรษฐกิจไทยที่แม้จะมีสัญญาณการขยายตัวที่ชัดเจนขึ้น แต่ความสามารถในการชำระหนี้ของบางภาคธุรกิจ กลุ่มธุรกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (SMEs) และภาคครัวเรือนยังคงด้อยลง ส่วนหนึ่งสะท้อนการขยายตัวของภาวะเศรษฐกิจที่ยังกระจายตัวไม่ทั่วถึง รวมถึงผลจากการเปลี่ยนแปลงเชิงโครงสร้างและความสามารถทางการแข่งขันของ SMEs ขณะที่ภาคอสังหาริมทรัพย์ยังคงมีอุปทานคงค้างสูงในบางระดับราคาและบางพื้นที่ แต่ยังไม่พบสัญญาณเก็งกำไรอย่างกว้างขวางหรือภาวะฟองสบู่และเริ่มเห็นการชะลอตัวของการเปิดโครงการใหม่

พฤติกรรมการแสวงหาผลตอบแทนที่สูงขึ้น (search for yield) ยังคงมีอยู่ สะท้อนจากการลงทุนในสินทรัพย์เสี่ยงของผู้ลงทุนสถาบันเพื่อให้ได้ผลตอบแทนตามที่ลูกค้าคาดหวัง รวมถึงการลงทุนในต่างประเทศโดยเฉพาะการลงทุนในกองทุนรวมที่ลงทุนในต่างประเทศ (foreign investment fund) ที่ขยายตัวต่อเนื่องและมีการกระจุกตัวของการลงทุนในบางประเทศ แม้ว่าการลงทุนส่วนใหญ่อยู่ในประเทศที่มีอันดับความน่าเชื่อถือในเกณฑ์ดี(investment grade) ขณะที่การออกตราสารหนี้ภาคเอกชนที่ไม่มีการจัดอันดับความน่าเชื่อถือ (unrated bond) และกองทุนรวมเพื่อผู้ลงทุนที่มิใช่รายย่อย (accredited investor mutual fund) ที่เคยขยายตัวต่อเนื่องในช่วงที่ผ่านมาได้ชะลอตัวลงภายหลังการผิดนัดชำระหนี้ของผู้ออกตราสารบางราย โดยในส่วนนี้สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.)ได้ปรับปรุงกฎเกณฑ์การกำกับดูแลการออกตราสารหนี้เพิ่มเติม โดยเน้นที่กระบวนการขายของตัวกลางและการให้ข้อมูลความเสี่ยงที่ครบถ้วนแก่นักลงทุน

พฤติกรรมการแสวงหาผลตอบแทนที่สูงขึ้นผ่านสหกรณ์ออมทรัพย์ยังคงมีอย่างต่อเนื่อง สะท้อนจากการขยายตัวอย่างรวดเร็วของเงินรับฝากและหุ้นที่ระดมจากสมาชิก รวมถึงการกู้ยืมเงินจากแหล่งทุนภายนอกที่ยังอยู่ในระดับสูง แม้ว่าหน่วยงานกำกับดูแลที่เกี่ยวข้องจะได้ปรับปรุงกฎเกณฑ์การกำกับดูแลสหกรณ์ออมทรัพย์ (prudential measures) ไปแล้วส่วนหนึ่ง ที่ประชุมยังเห็นว่ามีความจำเป็นต้องเร่งยกระดับการกำกับดูแลความเสี่ยงและธรรมาภิบาลของสหกรณ์ออมทรัพย์ให้มีความเหมาะสมและสอดคล้องกับปรัชญาการดำเนินงานของสหกรณ์

ในระยะต่อไป ระบบการเงินไทยยังต้องเผชิญกับความเสี่ยงทั้งจากเศรษฐกิจการเงินโลกที่มีความไม่แน่นอนสูง รวมถึงการขยายตัวของเศรษฐกิจไทยที่ยังไม่ทั่วถึง จึงต้องติดตามความเปราะบางจากความสามารถในการชำระหนี้ของบางภาคธุรกิจและครัวเรือนที่อาจมีแนวโน้มถดถอยลง รวมถึงการต่ออายุเงินกู้ยืม (roll-over) ของภาคธุรกิจที่ระดมทุนผ่านการกู้ยืมและออกตราสารหนี้ระยะสั้น

ทั้งนี้ หน่วยงานกำกับดูแลทั้งธนาคารแห่งประเทศไทย สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) และสำนักงานคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย (คปภ.) ได้ร่วมกันประเมินและติดตามความความเสี่ยงต่าง ๆ อย่างต่อเนื่อง รวมถึงปรับปรุงและบังคับใช้เกณฑ์การกำกับดูแลให้เหมาะสมกับความเสี่ยงที่เกิดขึ้นในแต่ละช่วงเวลา เพื่อไม่ให้เกิดปัญหาที่อาจกระทบต่อเสถียรภาพระบบการเงินของประเทศ


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ