นายสมพร จิตเป็นธม เลขาธิการคณะกรรมการกองทุนการออมแห่งชาติ (กอช.) เปิดเผยว่า กอช.ได้ดำเนินการเร่งรัดทำความเข้าใจแก่แรงงานนอกระบบที่มีสิทธิรับประโยชน์ตาม พ.ร.บ.กองทุนการออมแห่งชาติ พ.ศ.2554 พร้อมกับการส่งเสริมความรู้ความเข้าใจทางการเงินและการออมเพื่อการเกษียณแก่ประชาชน โดย กอช.ได้จัดให้มีกิจกรรมลงพื้นที่พบประชาชนในภูมิภาคต่างๆ ในลักษณะของความร่วมมือกับภาคีเครือข่ายการออมหลากหลายโครงการกว่า 50 กิจกรรม ที่ได้ดำเนินการอย่างต่อเนื่อง อาทิ การส่งเสริมการออมกับเครือข่ายองค์กรการเงินชุมชน (Micro Finance) ซึ่งปัจจุบันมีสถาบันการเงินชุมชนจำนวนกว่า 73 แห่งทั่วประเทศ ที่เข้าร่วมเป็นหน่วยบริการประชาชนเกี่ยวกับ กอช. ไม่ว่าจะเป็นบริการข้อมูลทั่วไป หรือการอำนวยความสะดวกในการสมัครสมาชิกและส่งเงินสะสม
นอกจากนี้ ยังมีกิจกรรมส่งเสริมการออมในสถานศึกษา ภายใต้โครงการต้นกล้าการออม รวมถึงโครงการผู้ว่าฯ ชวนออมในจังหวัดนำร่อง 10 จังหวัดใหญ่ทุกภูมิภาค ซึ่งในแต่ละครั้งที่ กอช. ลงพื้นที่จะมีประชาชนให้ความสนใจเข้าร่วมกิจกรรมอย่างเนืองแน่น ในหลากหลายสาขาอาชีพ
นายสมพร กล่าวว่า การออมกับ กอช.เป็นการออมภาคสมัครใจ ขณะที่กลุ่มเป้าหมายของการออมเป็นแรงงานนอกระบบซึ่งประกอบอาชีพอิสระ มีรายได้ไม่แน่นอน และส่วนใหญ่มีภาระค่าใช้จ่าย มีหนี้สิน และจำนวนมากที่ยังละเลยการออมในวันนี้เพื่อใช้ประโยชน์ตอนชราภาพ เนื่องจากเห็นว่าเป็นเรื่องไกลตัว
ดังนั้น กอช. จึงมีภารกิจท้าทายที่จะต้องปูพื้นฐานความรู้ความเข้าใจให้ประชาชนเห็นความจำเป็นของการออมเพื่อการเกษียณ โดยต้องเร่งกระตุ้นให้ประชาชนเริ่มห่วงใยถึงสภาพความเป็นอยู่ของตนเอง ภายใต้สภาพสังคมและสิ่งแวดล้อมในอนาคตอันใกล้ที่ประเทศไทยจะกลายเป็นสังคมสูงวัยโดยสมบูรณ์ และให้ประชาชนหันมาปรับพฤติกรรมทางการเงินของตนเองให้มีการเตรียมความพร้อมมีการออมมากขึ้น โดยเฉพาะการออมเพื่อชีวิตยามเกษียณ
"โดยเร็วๆ นี้ กอช.จะขยายการลงพื้นที่เข้าถึงกลุ่มเป้าหมายที่เป็นสมาชิกกองทุนหมู่บ้าน และขยายผลการสร้างค่านิยมการออมแก่เยาวชน เน้นกลุ่มผู้มีอายุ 15 ปีขึ้นไป ซึ่งมีสิทธิสมัครสมาชิก กอช. อีกด้วย" เลขาธิการ กอช.ระบุ
ปัจจุบัน กอช. มีผู้สมัครเป็นสมาชิกแล้วจำนวน 537,326 ราย เงินกองทุนรวมประมาณ 2,461 ล้านบาท (ณ วันที่ 9 ก.ค. 2560) ซึ่งยังมีประชาชนอีกจำนวนมากที่ประกอบอาชีพอิสระ และยังไม่ได้สมัครเป็นสมาชิกกองทุนเพื่อรับสิทธิประโยชน์ตามกฎหมาย