นักวิเคราะห์คาดยอดขายบ้านมือสองของสหรัฐปรับตัวสูงขึ้น 2% ในเดือนเมษายน

ข่าวต่างประเทศ Wednesday May 27, 2009 15:04 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

ยอดขายบ้านมือสองของสหรัฐมีแนวโน้มปรับตัวสูงขึ้นในเดือนเม.ย. เนื่องจากมีการประมูลบ้านหลุดจำนองและผู้บริโภคเริ่มมีอำนาจซื้อมากขึ้น ซึ่งภาวะเช่นนี้กระตุ้นให้มีการซื้อบ้านเพื่อเก็งกำไร

นักวิเคราะห์จากโพลล์ของสำนักข่าวบลูมเบิร์กคาดการณ์ว่า ยอดขายบ้านมือสองของสหรัฐเพิ่มขึ้น 2% แตะที่ 4.66 หลังต่อปี จากระดับ 4.57 ล้านหลังในเดือนก่อนหน้านี้ ขณะที่ยอดขายบ้านเฉลี่ยตั้งแต่เดือนพ.ย.อยู่ที่ระดับ 4.6 ล้านหลัง ซึ่งตัวเลขดังกล่าวได้จุดกระแสคาดการณ์ว่า ตลาดอาจเริ่มกลับมามีเสถียรภาพหลังจากที่ยอดขายดิ่งลง 38% จากจุดสูงสุดเมื่อปี 2548

ดอกเบี้ยเงินกู้จำนองที่ลดต่ำสุดเป็นประวัติการณ์ ประกอบกับเครดิตภาษีและราคาบ้านที่ตกลงอาจกระตุ้นอุปสงค์ของผู้ซื้อได้อย่างต่อเนื่องและทำให้บ้านที่ขายไม่ออกมีจำนวนลดน้อยลงตามมา นอกจากนี้ ยอดขายบ้านที่กระเตื้องขึ้นจะช่วยพยุงมูลค่าในตลาดอสังหาริมทรัพย์ไม่ให้ลดลงหนักไปกว่าเดิม ซึ่งนั่นเป็นปัจจัยสำคัญที่จะกระตุ้นเม็ดเงินภาคครัวเรือนและการก่อสร้างในยามที่เศรษฐกิจเริ่มฟื้นตัวขึ้นจากภาวะถดถอย

โดยอัตราดอกเบี้ยเงินกู้จำนองบ้านที่ต่ำลงคือปัจจัยสำคัญที่ช่วยให้ประชาชนสามารถกู้เงินมาซื้อบ้านได้มากขึ้น ซึ่งอัตราดอกเบี้ยคงที่ระยะ 30 ปีลดลงสู่ระดับ 4.78% ในเดือนเม.ย. ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดนับตั้งแต่ปี 2515

ซีเลีย เฉิน นักวิเคราะห์จาก Moody’s Economy.com กล่าวว่า "ยอดขายบ้านและกิจกรรมการก่อสร้างอาจมาถึงจุดต่ำสุดและพร้อมจะฟื้นตัวขึ้นแล้ว ซึ่งยอดขายบ้านที่ดีขึ้นได้รับปัจจัยหนุนจากการประกาศขายบ้านหลุดจำนอง ซึ่งช่วยให้เกิดกิจกรรมการซื้อขายในภาคอสังหาริมทรัพย์อย่างต่อเนื่อง"

อย่างไรก็ดี ยอดบ้านหลุดจำนองในสหรัฐมีจำนวนสูงขึ้นเป็นประวัติการณ์ในเดือนเม.ย. ซึ่งเพิ่มขึ้นต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 2 และถีบตัวขึ้น 32% จากปีก่อนหน้านี้ ขณะที่อัตราว่างงานไต่ระดับสูงสุดในรอบกว่า 25 ปี

ทั้งนี้ สมาคมนายหน้าค้าอสังหาริมทรัพย์แห่งชาติของสหรัฐมีกำหนดรายงานยอดขายบ้านมือสองในเวลา 10.00 น.ของวันนี้ตามเวลาท้องถิ่น


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ