สภาทองคำโลก (WGC) เปิดเผยว่า ในปีพ.ศ.2552 ธนาคารกลางทั่วโลกเพิ่มปริมาณทองคำในคลังสำรองมากที่สุดในรอบ 46 ปี หรือนับตั้งแต่ปีพ.ศ.2507 เนื่องจากราคาทองคำทะยานขึ้นยาวนานที่สุดในรอบ 9 ทศวรรษ
ข้อมูลของ WGC ระบุว่า ธนาคารกลางทั่วโลกถือครองทองคำรวมกันเพิ่มขึ้น 425.4 เมตริกตัน มาอยู่ที่ระดับ 30,116.9 เมตริกตัน โดยธนาคารกลางหลายแห่งของโลก ซึ่งถือครองทองคำในสัดส่วน 18% ของปริมาณทองคำทั่วโลก กำลังเพิ่มปริมาณการถือครองทองคำ ในขณะที่นักลงทุนกลุ่มอื่นๆก็เข้าถือครองเพื่อหลีกเลี่ยงความเสี่ยงในยามที่สกุลเงินต่างๆผันผวน โดยกองทุน SPDR Gold Trust ซึ่งเป็นกองทุน ETF ทองรายใหญ่ที่สุดในโลก เข้าถือครองทองคำ 1,115.5 เมตริกตันในขณะนี้ ซึ่งมากกว่าปริมาณการถือครองทองคำของสวิตเซอร์แลนด์ ทั้งนี้ ธนาคารกลางศรีลังกาเข้าซื้อทองคำน้ำหนัก 10 เมตริกตันจากกองทุนการเงินระหว่างประเทศ (ไอเอ็มเอฟ) ในปีที่แล้ว คิดเป็นมูลค่า 375 ล้านดอลลาร์ ธนาคารกลางอินเดียเข้าซื้อ 200 เมตริกตัน มูลค่า 6.7 พันล้านดอลลาร์ และธนาคารกลางมอริเชียสซื้อทองคำน้ำหนัก 2 เมตริกตัน มูลค่าประมาณ 71.7 ล้านดอลลาร์
ราคาทองคำทะยานขึ้นไปแล้ว 24% ในปีนี้ หลังจากพุ่งขึ้นแตะระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ที่ 1,226.56 ดอลลาร์/ออนซ์เมื่อเดือนธ.ค.ที่ผ่านมา ส่วนเมื่อคืนนี้ สัญญาทองคำตลาด COMEX เดือนเม.ย.ปิดบวก 3.30 ดอลลาร์ แตะที่ระดับ 1,127.50 ดอลลาร์/ออนซ์ เนื่องจากปัญหาหนี้สินของกรีซและความขัดแย้งระหว่างชาติสมาชิกยุโรปในเรื่องการให้ความช่วยเหลือกรีซ ทำให้นักลงทุนเข้าซื้อทองคำเพื่อหลีกเลี่ยงความเสี่ยง