ธ.ไทยเครดิตฯ คาดปิดดีล SICCO ปีนี้ ก่อนคิดเทคฯ SSEC-ยังไม่ฟันธงซื้อ ML

ข่าวหุ้น-การเงิน Tuesday October 12, 2010 10:02 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

ธนาคารไทยเครดิตเพื่อรายย่อย เปิดเผยกับ"อินโฟเควสท์"ว่า ดีลซื้อกิจการ บง.สินอุตสาหกรรม(SICCO)คาดว่าจะสรุปภายในปีนี้ ยืนยันราคาที่ 4 บาท/หุ้น ก่อนเดินหน้าทำเทนเดอร์ฯ SSEC พร้อมมองหาโอกาสซื้อกิจการเพิ่ม รับสนใจซื้อบมจ.ไมด้า ลิสซิ่ง(ML)แต่ยังไม่ตัดสินใจ ส่วนแผนเข้าตลาดหุ้นขอรอดูความเหมาะสมในปี 54

นายมงคล ลีลาธรรม ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ เปิดเผยว่า การทำดิวดิลิเจนซ์เข้าซื้อกิจการ SICCO จากธนาคารไทยพาณิชย์(SCB)คาดว่าจะแล้วเสร็จภายใน 2 สัปดาห์ข้างหน้า ส่วนแผนธุรกิจในการควบรวมกิจการน่าจะได้รับอนุมัติจากธนาคารแห่งประเทศไทย(ธปท.)ในเดือน พ.ย.53 โดยยืนยันราคาซื้อขายหุ้น SICCO ที่ 4 บาท/หุ้นตามที่ได้มีข้อตกลงในสัญญา

ทั้งนี้ ธนาคารคาดว่ากระบวนการซื้อกิจการ SICCO จะแล้วเสร็จภายในสิ้นปี 53 หลังจากนั้นจะมีการปรับโครงสร้างกิจการทั้งของธนาคารและ SICCO โดยจะมีการคืนใบอนุญาตประกอบธุรกิจเงินทุนของ SICCO เป็นไปตามแผนพัฒนาระบบสถาบันการเงิน และเมื่อมีการโอนกิจการทั้งหมดของ SICCO มาแล้ว จะทำให้ขนาดสินทรัพย์ของธนาคารเพิ่มเป็น 30,000 ล้านบาท ซึ่งจะทำให้การดำเนินธุรกิจของธนาคารมีประสิทธิภาพและเกิดได้ประโยชน์มากขึ้น เพราะฐานลูกค้าของ SICCO 90% เป็นรายย่อยเช่าซื้อ ซึ่งธนาคารยังไมมีฐานลูกค้ากลุ่มนี้

ประกอบกับ สาขาของ SICCO 15 แห่ง เมื่อรวมสาขาธนาคารอีก 15 แห่งจะทำให้การให้บริการครอบคลุมมากขึ้นทั้งในเขตกรุงเทพฯและต่างจังหวัด เอื้อต่อการขยายธุรกิจได้มากขึ้นทั้งแนวกว้างในลักษณะการให้บริการครอบคลุมทั่วประเทศ และแนวลึกคือการให้บริการที่จะขยายธุรกิจในด้านต่างๆ ที่เหมาะสม

สำหรับ บล.ซิกโก้ (SSEC)ยังถือเป็นบริษัทลูกของ SICCO หลังกระบวนการซื้อกิจการแล้วเสร็จ ธนาคารจะมีการทำเทนเดอร์ออฟเฟอร์ SSEC ต่อไป โดยราคาที่เสนอซื้อจะเป็นราคาตามสัดส่วนเดียวกับการได้มาของ SICCO

แต่ขณะนี้ธนาคารยังไม่ได้เร่งรีบดำเนินการ และยังไม่มีแผนชัดเจนว่าธนาคารจะดำเนินธุรกิจหลักทรัพย์ด้วยหรือไม่ โดยต้องเข้าไปพิจารณาคุณภาพธุรกิจของบริษัทก่อน ซึ่งยังมีเวลาดำเนินการอีก 1 ปี แต่เบื้องต้นก็เห็นว่าธุรกิจหลักทรัพย์ของ SSEC ยังดำเนินไปได้ดีและสร้างผลกำไรได้ ไม่ได้เป็นภาระต่อธนาคาร

นายมงคล กล่าวอีกว่า ธนาคารยังมองหาการเข้าซื้อกิจการอื่นๆ อย่างต่อเนื่องในปี 54 ซึ่งการรุกธุรกิจลูกค้ารายย่อยธนาคารมีแผนอยู่แล้ว แต่จะดำเนินการทีละเรื่อง ขณะนี้ธนาคารมีข้อตกลงกับ SICCO จึงขอดำเนินการเรื่องนี้ให้เสร็จสิ้นก่อน

"ที่จะซื้อ ไมด้าลิสซิ่ง ตอนนี้ยัง เพราะปกติแล้วแบงก์เราต้องทำอะไรด้วยความรอบคอบ การทำงานของแบงก์ต้อง consevative เวลาทำอะไรสักอย่างต้องทำให้ดี ปีที่แล้วก็ซื้อกิจการไปแล้วคือธนบรรณ ปีนี้ก็เรื่องของซิกโก้ ก็แค่นี้ก่อน ส่วนปีหน้าคงต้องดูสภาวการณ์อีกที แต่ขณะนี้ผมมองว่าแบงก์เติบโตมาระดับหนึ่งแล้ว จะเน้นประสิทธิภาพและเสถียรภาพเป็นหลักสำคัญ" นายมงคล กล่าว

สำหรับแผนเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ นายมงคล กล่าวว่า ธนาคารพร้อมจะดำเนินการในปี 54 แต่คงต้องดูจังหวะเวลา และความเหมาะสมอีกครั้ง

อย่างไรก็ตาม การเข้าซื้อ SICCO ไม่ใช่เพื่อเข้าเป็นบริษัทจดทะเบียนทางอ้อม เพราะปัจจุบันธนาคารมีคุณสมบัติเพียงพอที่เข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์อยู่แล้ว เพียงแต่รอจังหวะที่เหมาะสมที่จะเกิดประโยชน์ต่อธนาคารและผู้ถือหุ้น ขณะที่ธนาคารไม่ได้เร่งรีบเข้าจดทะเบียนในตลาดฯ เพราะยังมีระดับเงินกองทุนกว่า 3,000 ล้านบาทเพียงพอต่อการดำเนินธุรกิจ และยังไม่มีแผนจะระดมเงินเพิ่มเติมอีกในขณะนี้

ช่วง 9 เดือนที่ผ่านมา ธนาคารมีผลประกอบการที่น่าพอใจ โดยสามารถปล่อยสินเชื่อได้แล้วกว่า 12,300 ล้านบาท และทั้งปี 53 ธนาคารตั้งเป้ามีกำไรสุทธิ 50 ล้านบาท โดยมีเป้าหมายยอดปล่อยสินเชื่อและยอดเงินฝากในระดับเดียวกันที่ 14,000 ล้านบาท คิดเป็นการเติบโต 50% จากปี 52 ซึ่งเชื่อว่าจะเป็นไปตามเป้าหมาย

ขณะที่ปี 54 เชื่อว่าผลประกอบการของธนาคารจะมีการเติบโตอย่างก้าวกระโดด หลังจากได้มีการซื้อกิจการ SICCO แล้ว


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ