KTIS ปิดเทรดวันแรกที่ 9.70 บาท ต่ำกว่าราคาขาย IPO 3%

ข่าวหุ้น-การเงิน Monday April 28, 2014 16:59 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

หุ้น KTIS ปิดเทรดวันแรกที่ 9.70 บาท ลดลง 0.30 บาท(-3%)จากราคาขาย IPO ที่ 10.00 บาท/หุ้น มูลค่าซื้อขาย 6,891 ล้านบาท โดยเปิดตลาดที่ 10.00 บาท ราคาปรับตัวขึ้นสูงสุดที่ 10.10 บาท และราคาปรับตัวลงต่ำสุดที่ 9.40 บาท

นอกจากนี้ ยังมีรายการบิ๊กล็อต 7 รายการ จำนวน 417,414,800 หุ้น มูลค่าซื้อขาย 5,184.16 ล้านบาท เทรดในราคาเฉลี่ยหุ้นละ 12.42 บาท/หุ้น

บล.ดีบีเอส วิคเคอร์ส(ประเทศไทย)ระบุในบทวิเคราะห์ฯว่า สิ่งที่น่าสนใจของบมจ.เกษตรไทย อินเตอร์เนชั่นแนล ชูการ์ คอร์ปอเรชั่น(KTIS) คือ เป็นหลักทรัพย์ที่ระดมทุนก้อนใหญ่สุดของปีนี้ที่ 9,578 ล้านบาท Market Cap. สูงเป็น 38.6 พันล้านบาท ใหญ่กว่า KSL และ KBS ที่จดทะเบียนอยู่ในตลาดฯก่อนหน้า เป็นผู้ผลิตน้ำตาลทรายลำดับที่ 3 ของไทย

ขณะที่ธุรกิจน้ำตาลปีนี้ฟื้นตัวดีกว่าปีก่อน แรงผลักดันการเติบโตของผลกำไรในอนาคตคือ การขยายกำลังการผลิตน้ำตาล และมีแนวโน้มเชิงบวกสำหรับธุรกิจเอทานอลและพลังงานที่บริษัททำอยู่ หากพิจารณาราคาหุ้นทั้ง KSL และ KBS ตั้งแต่ต้นปี 57 ถึงปัจจุบันปรับตัวสูงขึ้นได้อย่างมีนัยสำคัญ อีกทั้งมีจิตวิทยาทางบวกจาก ICHI ในหมวดอาหารที่เพิ่งเข้ามาซื้อขายก็ประสบความสำเร็จทำกำไรให้กับผู้จองหุ้นเป็นจำนวนมาก

KTIS กระจายหุ้นจำนวนทั้งสิ้น 957,827,000 หุ้น คิดเป็น 24.6% ของทุนจดทะเบียนของบริษัท ปัจุบันมีทุนจดทะเบียนอยู่ที่ 3,888,000,000 บาท เมื่อเสนอขายหุ้นแล้วจะกลายเป็นทุนจดทะเบียนชำระแล้ว 3,274,573,000 บาท ราคาพาร์อยู่ที่ 1 บาท ตั้งราคา IPO อยู่ที่ 10 บาท มีการคำนวนราคาจาก P/E อยู่ที่ 13-14 เท่า

บริษัทคาดว่าการระดมทุนครั้งนี้จะได้เงินจำนวนกว่า 9 พันล้านบาท เพื่อนำมาใช้ขยายกำลังการผลิตโรงงานน้ำตาล ลงทุนสร้างโรงงานปุ๋ยชีวภาพ 50 ล้านบาท ลงทุนสร้างโรงไฟฟ้าชีวมวลจากชานอ้อย 2 แห่ง แห่งละ 960 ล้านบาท เพื่อเพิ่มกำลังการผลิตไฟฟ้าให้บริษัทฯ และโครงการผลิตนำเชื่อมและน้ำตาลทรายขาวบริสุทธิ์พิเศษ จำนวน 980 ล้านบาท อีกส่วนหนึ่งจะใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียน

บริษัทคาดว่ารายได้ปีนี้จะไม่ต่ำกว่า 2.2-2.3 หมื่นล้านบาท จากปีก่อนที่มีรายได้ราว 1.8 หมื่นล้านบาท(+25%) โดยรายได้หลักมาจากธุรกิจอ้อยและน้ำตาล ซึ่งมีสัดส่วนถึง 80% ซึ่งในปีนี้ราคาที่ปรับตัวดีขึ้นมาอยู่ที่ 18-19 เซนต์/ปอนซ์ จากปีก่อนอยู่ที่เฉลี่ย 15-16 เซน/ปอนซ์ ประกอบกับปีนี้คุณภาพของอ้อยดีกว่าปีก่อน ส่งผลให้ในปริมาณอ้อยที่เท่ากันแต่ผลิตน้ำตาลได้มากกว่าปีก่อนถึง 1 ล้านกระสอบ และสัดส่วนรายได้จากการขายน้ำตาลนั้นมาจากในประเทศ 70% และจากต่างประเทศ 30%


แท็ก บิ๊กล็อต  

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ