BKD-W1 ปิดเทรดวันแรกที่ 2.08 บาท มูลค่าซื้อขาย 288.75 ล้านบาท โดยเปิดตลาดที่ 2.40 บาท ราคาขึ้นสูงสุด 2.68 บาท และราคาลงต่ำสุด 2.00 บาท นอกจากนี้ ยังมีรายการบิ๊กล็อต BKD-W1 จำนวน 4 รายการ ปริมาณซื้อขาย 77.50 ล้านหน่วย มูลค่าซื้อขาย 92.75 ล้านบาท เทรดในราคาเฉลี่ย 1.20 บาท/หน่วย
ส่วนหุ้น BKD ปิดที่ 5.15 บาท ลดลง 0.35 บาท (-6.36%)มูลค่าซื้อขาย 31.38 ล้านบาท โดยเปิดตลาดที่ 5.50 บาท ราคาขึ้นสูงสุด 5.50 บาท และราคาลงต่ำสุด 5.15 บาท
บล.ทิสโก้ ระบุในบทวิเคราะห์ฯประเมินมูลค่าที่เหมาะสมของ BKD-W1 ได้ที่ 1.08 บาท อ้างอิงราคาหุ้นแม่ที่ราคา 5.5 บาท(19 ก.ย.) โดยเห็นว่าควรมี All-in-Premium 3.07% ซึ่งค่อนข้างต่ำ เนื่องจากเป็นใบสำคัญแสดงสิทธิที่ In-The-Money, ผลของ Dilution Effect 20% และอายุของใบสำคัญแสดงสิทธิที่ต่ำเพียง 1 ปีครึ่งเท่านั้น นอกจากนี้อัตราการใช้สิทธิของ BKD-W1 อยู่ที่ 2 : 1 หมายความว่า 2 ใบสำคัญแสดงสิทธิจึงจะสามารถซื้อหุ้นอ้างอิงได้ที่ราคา 3.5 บาท
พร้อมให้กรอบมูลค่าเหมาะสมของ BKD-W ไว้ที่ 0.98-1.16 บาท เมื่อราคาหุ้น BKD เคลื่อนไหวในกรอบ 5.20-5.70 บาท โดยมี Volatility 64% per year
BKD ประกอบธุรกิจหลัก 2 ประเภท คือ 1) รับเหมาตกแต่งภายในอาคาร ประเภทคอนโดมิเนียม โรงแรม สำนักงาน ห้างสรรพสินค้า มหาวิทยาลัย โรงพยาบาล และสถานที่ราชการ โดยส่วนใหญ่บริษัทจะรับงานตกแต่งภายในตรงจากเจ้าของโครงการ (Project owner) หรือ ผ่านผู้รับเหมาหลัก (Main Contractor) จากการประกวดราคาหรือจากการที่ลูกค้าเข้ามาติดต่อเอง 2) ผลิตและจัดจำหน่ายเฟอร์นิเจอร์สำเร็จรูปตามคำสั่งซื้อลูกค้า
บริษัทฯ ตั้งเป้ารายได้ปีหน้า (2558) โต 10% มาอยู่ที่ 1,300 ล้านบาท จากปีนี้คาดมีรายได้อยู่ที่ 1,100 ล้านบาท โดยจะรับรู้รายได้จากงานที่มีในมือ (Backlog) ซึ่งมีรายได้ที่รอรับรู้อยู่ราว 2,000 ล้านบาท จะรับรู้ภายในปีนี้ราว 1,000 ล้านบาท และมีงานที่รอเข้าประมูลอยู่ราว 3,000 ล้านบาท ซึ่งเป็นงานประมูลของภารรัฐบาลทั้งหมด โดยบริษัทฯคาดจะได้งานราว 2,000 ล้านบาท
ที่ผ่านมาบริษัทฯได้งานโครงการปรับปรุงโครงการอาคารหอพักจุฬาลงกรณ์ มูลค่า 120 ล้านบาท และงานปรับปรุงโรงแรมพลาซ่าแอทธินี มูลค่า 207 ล้านบาท รวมถึงงานปรับปรุงมหาวิทยาลัยราชภัฏอุดรธานี 100-200 ล้านบาท
BKD-W1 จำนวนที่ออก 349.99 ล้านหน่วย จัดสรรให้แก่ผู้ถือหุ้นเดิมในอัตราส่วน 2 : 1 ฟรี อัตราใช้สิทธิ 2 : 1 @ 3.5 บาท, อายุ 1.5 ปี กำหนดใช้สิทธิได้ในวันที่ 30 มิ.ย. 58 และวันหมดอายุวันที่ 27 ก.พ. 59