FSMART ปิดเช้า 6.00 บาท สูงกว่าราคาขาย IPO 140%, บิ๊กล็อต 1.7 ล้านหุ้น

ข่าวหุ้น-การเงิน Tuesday October 14, 2014 12:43 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

หุ้น FSMART ปิดเทรดช่วงเช้าที่ 6.00 บาท เพิ่มขึ้น 3.50 บาท(+140%)จากราคาขาย IPO ที่ 2.50 บาท/หุ้น มูลค่าซื้อขาย 1,232.44 ล้านบาท โดยเปิดตลาดที่ 6.50 บาท ราคาปรับตัวขึ้นสูงสุดที่ 6.65 บาท และราคาปรับตัวลงต่ำสุดที่ 5.55 บาท

ทั้งนี้ ได้มีรายการบิ๊กล็อตหุ้น FSMART 1 รายการ จำนวน 1.7 ล้านหุ้น มูลค่าซื้อขาย 10.64 ล้านบาท เทรดในราคาเฉลี่ยหุ้นละ 6.26 บาท

นายพงษ์ชัย อมตานนท์ กรรมการและประธานกรรมการบริหาร บมจ.ฟอร์ท สมาร์ท เซอร์วิส (FSMART) ผู้ให้บริการเติมเงินโทรศัพท์มือถือประเภทเติมเงินล่วงหน้า และบริการชำระเงินออนไลน์ผ่านเครื่องรับชำระเงินอัตโนมัติ ‘บุญเติม’ เปิดเผยว่า การเข้าซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์ เอ็ม เอ ไอ เป็นวันแรกของ FSMART ในวันนี้ (14 ต.ค.57) จะได้รับการตอบรับที่ดีจากนักลงทุน จากการที่บริษัทมีแผนขยายจำนวนตู้เติมเงินต่อเนื่อง โดยปัจจุบันบริษัทมีตู้เติมเงินบุญเติม 40,000 ตู้ตามเป้าหมายในปีนี้ ช่วงเวลาที่เหลือบริษัทจะวางแผนจะเพิ่มจำนวนตู้เติมเงินอีกเดือนละประมาณ 1,000 ตู้ ทั้งนี้ การเพิ่มจำนวนตู้เติมเงินดังกล่าวช่วยผลักดันให้ยอดเติมเงินมีอัตราการเติบโต และจะสร้างผลตอบแทนที่ดีให้กับผู้ถือหุ้นอย่างต่อเนื่อง

ในปีนี้บริษัทฯคาดว่าจะมียอดเติมเงินไม่ต่ำกว่า 10,000 ล้านบาท เป็นผลมาจากการเพิ่มจำนวนตู้เติมเงินบุญเติมทั่วประเทศ และการเพิ่มบริการหน้าตู้เพื่อรองรับความต้องการของผู้ใช้ได้ครอบคลุมมากกว่าขึ้น ตลอดจนการจัดกิจกรรมส่งเสริมการขายเพื่อจูงใจให้ใช้ลูกค้ามาใช้บริการตู้เติมเงินมากขึ้น ซึ่งจะส่งผลให้รายได้รวมของบริษัทในปีนี้จะมีการเติบโตไม่ต่ำกว่า 20% จากปี 2556 ที่มีรายได้รวมอยู่ที่กว่า 825 ล้านบาท และกำไรสุทธิกว่า 87 ล้านบาท

ขณะที่ในปี 58 บริษัทฯตั้งเป้าจะเพิ่มจำนวนตู้เติมเงินบุญเติม และบุญเติมเคาน์เตอร์เซอร์วิสให้ครบ 55,000 ตู้ ซึ่งบุญเติมเคาน์เตอร์เซอร์วิสเป็นสินค้าใหม่ที่เพิ่งให้บริการตามร้านค้าชุมชน และเชื่อว่าในอนาคตจะเป็นสินค้าที่ช่วยสนับสนุนให้รายได้ของบริษัทฯเพิ่มขึ้นอีกทางหนึ่ง

"ในปีนี้เราสามารถเพิ่มจำนวนตู้เติมเงินได้ 40,000 ตู้เร็วกว่าที่ตั้งเป้าหมายไว้ จากการที่ตัวแทนบริการหรือแฟรนส์ไชน์ของเราสามารถขยายตู้เติมเงินและบริหารตู้เติมเงินได้อย่างมีประสิทธิภาพ รวมถึงบริษัทฯก็มีการวางแผนการดำเนินงานอย่างเป็นระบบ ซึ่งจะส่งผลให้ยอดเติมเงินมากกว่าเป้าหมายที่วางไว้เช่นกัน ส่วนในปี 58 บริษัทฯตั้งเป้าเพิ่มจำนวนตู้เติมเงินบุญเติม และบุญเติมเคาน์เตอร์เซอร์วิสให้ครบ 55,000 ตู้ ซึ่งจะทำให้ยอดเติมเงินเพิ่มขึ้นไปในทิศทางเดียวกัน และจะส่งผลให้รายได้ของบริษัทฯเติบโตขึ้นอย่างต่อเนื่อง" นายพงษ์ชัยกล่าว

ด้านนายสมภพ ศักดิ์พันธิ์พนม ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท แอสเซท โปร แมเนจเม้นท์ จำกัด (APM) ในฐานะที่ปรึกษาทางการเงิน กล่าวว่า FSMART สามารถบริหารตู้เติมเงินบุญเติมให้เป็นผู้นำในธุรกิจตู้เติมเงินออนไลน์จนถึงปัจจุบัน สะท้อนพื้นฐานการดำเนินธุรกิจที่ดี ด้วยความแข็งแกร่งในการบริหารงาน อีกทั้งมีจุดแข็งด้านตัวแทนบริการหรือแฟรนส์ไชน์ของ FSMART ที่กระจายอยู่ทุกภูมิภาคในประเทศ ตลอดจนการพัฒนาด้านซอร์ฟแวร์ที่บริษัทฯพัฒนาขึ้นเองและสามารถปรับเปลี่ยนให้ทันสมัย รวดเร็ว และแม่นยำที่ตอบสนองความต้องการของผู้ใช้ได้เป็นอย่างดี ส่งผลให้ FSMART มีอัตราการเติบโตทั้งยอดเติมเงิน และรายได้รวมต่อเนื่องทุกปี

ขณะเดียวกัน ธุรกิจของ FSMART ยังมีแนวโน้มการเติบโตตามอุตสาหกรรมโทรศัพท์มือถือที่ถือเป็นสิ่งจำเป็นในชีวิตประจำวัน ยิ่งส่งเสริมให้ธุรกิจเติมเงินมีการขยายตัวจากผู้ใช้มือถือระบบเติมเงินล่วงหน้า (Pre-Paid) ยังมีกว่า 80% ของผู้ใช้บริการมือถือทั้งหมด ทำให้มองเห็นโอกาสในการดำเนินธุรกิจที่มีอีกมาก อีกทั้งบริษัทฯยังวางแผนให้ตู้บุญเติมเป็นมากกว่าตู้เติมเงินเพียงอย่างเดียว ซึ่งในอนาคตอาจจะต่อยอดธุรกิจอื่นๆที่เกี่ยวข้องช่วยเพิ่มรายได้ให้เติบโตอีกทางหนึ่ง ทั้งนี้ เชื่อว่าหุ้น FSMART จะเป็นอีกทางเลือกการลงทุนในตลาดหลักทรัพย์ เอ็ม เอ ไอ ที่จะสร้างผลตอบแทนที่ดีให้กับนักลงทุนทั้งในปัจจุบันและอนาคต

ส่วนนายสมภพ กีระสุนทรพงษ์ กรรมการผู้อำนวยการ บล.ฟินันเซีย ไซรัส (FSS) ผู้จัดการการจัดจำหน่ายและรับประกันการจำหน่าย กล่าวว่า ธุรกิจตู้เติมเงินของ FSMART ถือว่าเป็นโมเดลทางธุรกิจที่มีความเฉพาะตัวและน่าสนใจอย่างมาก ประกอบกับการเติบโตของยอดเติมเงินที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ทำให้บริษัทมีผลประกอบการที่ดีส่งผลถึงการมีปัจจัยพื้นฐานที่แข็งแกร่ง เห็นได้จากผลการดำเนินงานงวด 6 เดือนแรกของปี 57 บริษัทมีรายได้รวมเท่ากับ 530.11 ล้านบาท คิดเป็นอัตราการเติบโตจากช่วงเดียวกันของปีก่อน 43% โดยมีกำไรสุทธิ 65.10 ล้านบาท ซึ่งเกือบเท่ากับกำไรสุทธิทั้งปี 56 ซึ่งอยู่ที่ 87.27 ล้านบาท

ขณะที่ราคาเสนอขายหุ้นไอพีโอ FSMART ที่ราคา 2.50 บาท/หุ้น คิดเป็น P/E ที่ 16.67 เท่า จึงถือว่าเป็นระดับราคาที่น่าสนใจต่อการลงทุน เมื่อเปรียบเทียบกับ P/E เฉลี่ยของตลาดหลักทรัพย์ เอ็ม เอ ไอ ในช่วงเวลาเดียวกันซึ่งอยู่ที่ 33 เท่า ประกอบกับบริษัทมีนโยบายการจ่ายเงินปันผลให้แก่ผู้ถือหุ้นในแต่ละปีในอัตราไม่น้อยกว่าร้อยละ 40 ของกำไรสุทธิ


แท็ก บิ๊กล็อต  

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ