KCM คาดเริ่มส่งสินค้าขายฟิลิปปินส์ต้นปี 59,ได้พันธมิตรอีกรายวางสินค้าในสาขาย่อย

ข่าวหุ้น-การเงิน Monday July 20, 2015 13:48 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นายนิพนธ์ เจริญกิจ กรรมการผู้จัดการ บมจ.เค.ซี.เมททอลชีท(KCM)เปิดเผยว่า บริษัทคาดว่าจะได้ข้อสรุปการขยายตลาดสินค้าทั้งผนังและหลังคาเหล็กในฟิลิปปินส์ในช่วงปลายปีนี้ และน่าจะเริ่มจำหน่ายได้ในช่วงต้นปี 59 โดยขณะนี้อยู่ระหว่างการนำเสนอแผนงานให้กับตัวแทนจำหน่ายในฟิลิปปินส์
"บริษัทที่เราไปคุยในฟิลิปปินส์ เป็นบริษัทที่ค่อนข้างใหญ่ เราไปคุยกับเจ้าหน้าที่ระดับปฎิบัติการทำให้เรื่องเดินช้านิดหน่อย แต่จากที่ยื่นผลิตภัณฑ์และแผนงานให้เขาดูก็มีความสนใจ เราค่อนข้างมั่นใจว่าจะสำเร็จ และคาดว่าจะได้ข้อสรุปปลายปีนี้ เริ่มขายปี 59"นายนิพนธ์ กล่าว

ส่วนการขยายตลาดในประเทศ บริษัทอยู่ระหว่างเจรจากับพันธมิตรทางธุรกิจรายใหม่อีกรายที่เป็นบริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ เพื่อนำสินค้าประเภทอุปกรณ์ไฟฟ้า ทั้งหลอดไฟและสายไฟ มาจำหน่ายในสาขาของบริษัทที่กำลังเตรียมจัดตั้งขึ้น คาดว่าจะได้ข้อสรุปภายใน 2 เดือนนี้ และยังเจรจากับพันธมิตรรายอื่น ๆ เพื่อร่วมมือในลักษณะเดียวกันเพิ่มเติมอีก

ก่อนหน้านี้ บริษัทได้ร่วมมือกับ บมจ.บิวเดอสมาร์ท(BSM) เพื่อเป็นส่วนช่วยสนับสนุนซึ่งกันและกันในการทำตลาด จากเดิมที่บริษัทฯขายสินค้าโครงเหล็กหลังคาเหล็ก ก็จะทำให้บริษัทมีสินค้าประเภทระบบประตูและหน้าต่างของ BSM เข้ามาช่วยตอบโจทย์ผู้ซื้อสินค้ามากขึ้น เชื่อว่าจะส่งผลให้ยอดขายของบริษัทปรับตัวสูงขึ้นด้วย และสินค้าจาก BSM ให้อัตรากำไรสูงกว่าสินค้าเดิมที่จำหน่ายอยู่

นายนิพนธ์ กล่าวว่า บริษัทมีแผนเปิดสาขาย่อยใน จ.ขอนแก่น ชัยภูมิ และ มหาสารคาม จำนวน 10 แห่งในปีนี้ เพื่อเป็นการทดลองระบบต่างๆ และคาดว่าจะสามารถขยายสาขาได้อย่างเต็มที่ในปี 59 เพื่อไปสู่เป้าหมายการมีสาขาย่อยครบ 92 สาขาภายในปี 60 จากปีนี้ที่คาดว่าจะมีสาขาเดิมที่เป็นสาขาใหญ่และสาขาย่อยใหม่รวมทั้งหมด 30 สาขา

"ปัจจุบันเรากำลังเร่งที่จะเปิดสาขาย่อยสาขาแรกให้ได้ก่อน เพราะเราช้ามากว่าแผนมากแล้ว แต่เราก็มั่นใจว่าอีก 2 เดือน ก็คงจะเห็นสาขาแรกได้แล้ว เบื้องต้นเราก็คงเปิดใกล้ๆบ้านเราก่อนเพราะช่วงแรกของการเริ่มก็เหมือนเด็กที่ต้องคอยดูแลตลอด แล้วหลังจากนั้นเราค่อยขยายสาขาอย่างเต็มที่

สำหรับสาขาของเราก็อยากจะให้เหมือนเซเว่นอีเลฟเว่นที่สามารถเข้ามาซื้อของได้ครบทุดชิ้นในการที่จะสร้างบ้านหนึ่งหลัง ซึ่งเราก็เริ่มหาพันธมิตรเข้ามาอย่างต่อเนื่อง หลังจากที่เราได้ BSM ที่จะนำประตู หน้าต่าง เข้ามาขาย นอกจากนี้ เราก็ยังคุยกับบริษัทที่ทำธุรกิจเกี่ยวกับอุปกรณ์ไฟฟ้า เข้ามาอีกด้วย แค่นี้เราก็มีเกือบทุกอย่างแล้ว แต่เราก็ไม่ได้หยุดหลังจากนี้เราก็คงจะมีพันธมิตรเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ทั้งบริษัทที่อยู่ในตลาดหลักทรัพย์ และไม่ได้อยู่" นายนิพนธ์ กล่าว

นายนิพนธ์ กล่าวว่า แนวโน้มผลประกอบการปีนี้ บริษัทฯคงเป้ารายได้ปีนี้เติบโต 20% จากปีก่อนที่มีรายได้ 690 ล้านบาท และมั่นใจกำไรสุทธิจะดีกว่าปีก่อนที่มีกำไร 7.07 ล้านบาท เนื่องจากบริษัทได้รับคำสั่งซื้อเข้ามาอย่างต่อเนื่อง และมีการวางแผนบริหารจัดการต้นทุนได้เป็นอย่างดี

"เรายังมั่นใจรายได้ปีนี้เติบโต 20% เนื่องจากพันธมิตรใหม่ๆที่เข้ามาจะช่วยเพิ่มยอดขายอย่างชัดเจนคงจะเป็นปีหน้ามากกว่า ซึ่งเป็นการเติบโตตามการขยายสาขา และสินค้าต่างๆของพันธมิตรใหม่คงจะเริ่มเข้าจำหน่ายในร้านของเราก็คงเป็นช่วงปลายปีแล้ว จึงยังไม่เห็นตัวเลขเข้ามามากนัก"นายนิพนธ์ กล่าว

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ