หุ้น BPP ปิดเทรดวันแรกที่ 27.25 บาท เพิ่มขึ้น 6.25 บาท (+29.76%) จากราคาขาย IPO 21 บาท/หุ้น มูลค่าซื้อขาย 10,034.82 ล้านบาท โดยราคาเปิดตลาดที่ 24.90 บาท ราคาขึ้นสูงสุด 27.25 บาท และราคาลงต่ำสุดที่ 24.70 บาท
นอกจากนี้ยังมีรายการบิ๊กล็อตหุ้น BPP-F 1 รายการ จำนวน 760,000 หุ้น มูลค่าซื้อขาย 15.96 ล้านบาท เทรดในราคาเฉลี่ยหุ้นละ 21 บาท
นายพิเชษฐ สิทธิอำนวย กรรมการผู้อำนวยการ บล.บัวหลวง (BLS) ในฐานะที่ปรึกษาทางการเงินของ BPP เปิดเผยว่า บมจ.บ้านปู เพาเวอร์ (BPP) เข้าทำการซื้อขายในตลาด SET ได้สำเร็จ ซึ่งราคาที่เปิดทำการซื้อขายวันแรกในวันนี้ถือว่าเป็นราคาที่เหมาะสม และนักลงทุนให้ความสนใจจากศักยภาพของทีมบริหารที่ช่วยผลักดันให้ผลการดำเนินงานของบริษัท ที่มีโอกาสขยายตัวอย่างต่อเนื่องในอนาคต และคาดว่าจะเป็นหนึ่งในหุ้นที่ให้อัตราการจ่ายปันผลให้กับนักลงทุนในระดับที่ดี
BPP ดำเนินธุรกิจผลิตและจำหน่ายไฟฟ้าในหลายประเทศ โดยมีการลงทุนทั้งในโรงไฟฟ้าถ่านหินและโรงไฟฟ้าพลังงานหมุนเวียน ทั้งนี้ BPP เป็นบริษัทย่อยของ บมจ. บ้านปู (BANPU) ที่เกิดจากการปรับโครงสร้างโดยแยกกลุ่มธุรกิจไฟฟ้าออกมา เพื่อรองรับการขยายธุรกิจไฟฟ้าในอนาคตของกลุ่ม BANPU โดย BANPU เห็นถึงโอกาสการเติบโตของธุรกิจ จึงนำ BPP เข้าจดทะเบียน เพื่อสร้างความแข็งแกร่งทางการเงิน และเพิ่มขีดความสามารถในการขยายธุรกิจในระยะยาวของ BPP และสร้างมูลค่าเพิ่มแก่กลุ่ม BANPU
ผลการดำเนินงานงวดไตรมาส 2/59 ของ BPP และบริษัทย่อย มีกำไรสุทธิ 1.34 พันล้านบาท กำไรสุทธิต่อหุ้น 0.557 บาท เพิ่มขึ้นเมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนที่มีกำไรสุทธิ 544.94 ล้านบาท กำไรสุทธิต่อหุ้น 0.905 บาท
หลังจาก IPO ทาง BPP มีผู้ถือหุ้นใหญ่ 3 ลำดับแรก ได้แก่ บมจ. บ้านปู ถือหุ้น 78.71%, Credit Suisse (Singapore) Limited ถือหุ้น 5.35% และกลุ่มครอบครัวว่องกุศลกิจ ถือหุ้น 0.91%