นางจินตณา กิ่งแก้ว รองกรรมการผู้จัดการ บมจ.สยามแก๊ส แอนด์ ปิโตรเคมีคัลส์ (SGP) กล่าวว่า แนวโน้มรายได้ในช่วงไตรมาส 2/60 จะลดลงจากระดับ 1.43 หมื่นล้านบาทในไตรมาส 1/60 เนื่องจากราคาก๊าซปิโตรเลียมเหลว (LPG) ในตลาดโลกลดลงมาอยู่ที่ราว 466 เหรียญสหรัฐ/ตันในเดือนมิ.ย. จากระดับ 520 เหรียญสหรัฐ/ตันในช่วงไตรมาสแรก แต่ปริมาณขายน่าจะยังคงอยู่ในระดับเดียวกับไตรมาสแรก อย่างไรก็ตาม ในไตรมาส 2 บริษัทมีการบริหารสินค้าในระดับที่ต่ำ ซึ่งจะช่วยลดผลกระทบจากขาดทุนสต็อก
แต่เชื่อว่าผลการดำเนินงานในครึ่งหลังปีนี้ น่าจะปรับตัวดีขึ้นซึ่งเป็นไปตามทิศทางของธุรกิจ ทำให้มั่นใจว่ารายได้ปีนี้จะเติบโตแตะ 6 หมื่นล้านบาท จากระดับ 4.82 หมื่นล้านบาทในปีที่แล้ว ซึ่งเป็นไปตามเป้าหมายที่วางไว้ ขณะที่คาดว่าปริมาณการขาย LPG ปีนี้จะเติบโตราว 5% มาที่ราว 3.2 ล้านตัน จาก 3.04 ล้านตันในปี 59 โดยเป็นสัดส่วนการขายในต่างประเทศ 63% และในประเทศ 37%
ทั้งนี้ การทำธุรกิจ LPG ในต่างประเทศยังเติบโตต่อเนื่อง คาดว่าปริมาณการขายจะเติบโตราว 6% จากปีก่อน โดยเฉพาะในตลาดจีนจะขยายตัวราว 5% และ 10% จากมาเลเซีย จากการที่บริษัทมีแผนสร้างโรงบรรจุ LPG เพิ่มเติมในมาเลเซียฝั่งตะวันตกทางตอนเหนือจำนวน 3 แห่ง โดยจะใช้เงินลงทุนประมาณ 100-200 ล้านบาท ซึ่งแต่ละที่จะมีขนาดบรรจุ 3,000 ตัน ซึ่งจะทำให้ยอดจำหน่ายในมาเลเซียตะวันตกเพิ่มขึ้น 6,000-7,000 ตันต่อเดือน
ขณะเดียวกันปีนี้บริษัทจะเน้นกลยุทธ์ในการขายปลีกเพิ่มมากขึ้น อีกทั้งการที่ได้รับอนญาตในการนำเข้า LPG เพื่อส่งออกไปยังประเทศเพื่อนบ้านที่มีชายแดนติดกับไทย และการได้รับอนุญาตนำเข้า LPG เพื่อจำหน่ายในประเทศ ที่ผ่านมาบริษัทได้นำเข้า LPG ลำแรกเมื่อช่วงปลายเดือน ก.พ.ที่ผ่านมา จำนวน 3.3 หมื่นตัน และล่าสุดจนถึงเดือนมิ.ย.60 มียอดนำเข้ารวมประมาณ 1.87 แสนตัน และคาดว่าจนถึงสิ้นปีนี้จะมียอดนำเข้าก๊าซ LPG รวมทั้งสิ้น 5 แสนตัน โดยมั่นใจว่าจะสามารถดำเนินการได้ตามเป้าหมาย และน่าจะเป็นส่วนในการสนับสนุนรายได้ให้เติบโตอย่างแข็งแกร่ง
สำหรับความคืบหน้าในการเข้าถือหุ้น 30% ในโรงไฟฟ้าพลังงานความร้อนร่วมขนาด 230 เมกะวัตต์ (MW) ในเมียนมา คาดว่าจะดำเนินการแล้วเสร็จในไตรมาส 2/60 ซึ่งจะรับรู้ส่วนแบ่งกำไรได้ทันที ส่วนการขยายการลงทุนในประเทศอื่น ๆ ภายใต้การดำเนินงานของ บริษัทย่อยที่สิงคโปร์ หรือ Siamgas Global Investment Pte. Ltd. ปัจจุบันอยู่ระหว่างศึกษา และมองหาโอกาสในการลงทุนในต่างประเทศเพิ่มเติม เพื่อขยายช่องทางการเพิ่มรายได้ในอนาคต เช่น เมียนมา ,ฟิลิปปินส์ , อินโดนีเซีย และบังคลาเทศ เป็นต้น